ราล์ฟ รังนิก กับความท้าทายในการคุม “ผี”

มีหลายวิธีที่ผู้จัดการทีมคนใหม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นได้เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวสโมสรใหม่เป็นครั้งแรก แต่ ราล์ฟ รังนิก กุนซือชั่วคราวชาวเยอรมันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ กำลังต่อสู้กับความท้าทายที่ต้องพิชิตใจบรรดาแข้ง “ปีศาจแดง”

รังนิก จะต้องเดินเข้ามาในฐานะเทรนเนอร์ชื่อดังที่ได้รับการพิสูจน์ตังเองแล้ว หรือสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองที่สนามฝึกซ้อม และด้วยไหวพริบทางแท็คติกของเขาที่มอบหมายให้กับลูกทีมไปทำหน้าที่ ซึ่งนั่นเป็นหน่าที่หลักของผู้จัดการทีมคนใหม่

สถานการณ์ของ ราล์ฟ รังนิก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด

6 เกมล่าสุดที่ รังนิก คุม แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น เขาพาทีมชนะ 3 เสมอ 2 และล่าสุดพ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส คาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 0-1แต่หลังจบเกมมีเรื่องที่น่ากังวลมกกว่านั้นคือ เขาไม่สามารถจูงใจกลุ่มผู้เล่นบิ๊กเนมของ “ปีศาจแดง” ให้เชื่อมั่นได้

ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษของ แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวหลังเกมแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ว่า “บางทีผู้จัดการทีมอาจนำแนวคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการในสนามมาบ้าง” ซึ่งเห็นได้ชัดว่า รังนิก กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะยกระดับเกมของเขาให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เพื่อยกระดับฟอร์มของลูกทีม

แน่นอนว่า ผู้เล่นจะต้องรับคำวิจารณ์อย่างหนัก และ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทำผลงานได้ไม่ดีมาเป็นเวลานานจนหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วที่พวกเขาจะต้องถูกพิจารณาต่อไป แต่ผู้เล่นจำเป็นต้องได้รับแรงบันดาลใจ และแรงจูงใจ ดังนั้นทุกสายตาจับจ้องไปที่ รังนิก เพื่อตอบโต้

นักฟุตบอล่าวส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเล่นในระดับไหนก็ต้องใช้เวลาตัดสินใจนานเกี่ยวกับเจ้านายคนใหม่ของพวกเขา โยอดีตผู้เล่นคนหนึ่งซึ่งเคยคว้าแชมป์หลายรายการเคยบอกว่า วินาทีแรกในการแนะนำตัวของกุนซือคนใหม่นั้น ก็เพียงพอแล้วสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ที่จะตัดสินใจว่า เขาเป็นของจริงหรือเป็นแค่พนักงานขายฝัน

คำพูดแรกของผู้จัดการทีมอาจผลักดันให้นักเตะไปถึงจุดสุดยอดได้ แต่นักฟุตบอลส่วนใหญ่ต้องการให้ผู้จัดการทีมของพวกเขาปรับปรุงพวกเขา ทำให้พวกเขาจดจ่อกับฟุตบอล และที่สำคัญที่สุดคือทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ได้ ดังนั้น ข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลในตัวเจ้านายคนใหม่ของพวกเขานั้น สามารถสร้างความแตกต่างต่อโอกาสแห่งความสำเร็จได้

ความสงสัยในตัวโค้ชชาวเยอรมัน

หากผู้จัดการทีมไม่มีข้อมูลในการคว้าถ้วยรางวัลในประวัติของตัวเอง เขาต้องสร้างความแตกต่างด้วยแนวทางแท็คติคที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยให้เขาปรับปรุงทีมได้อย่างรวดเร็ว และปรับปรุงผู้เล่นเป็นรายบุคคล แต่หลังจากคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เพียง 6 สัปดาห์ รังนิก ก็กำลังดิ้นรนกับพื้นหลังของตัวเองที่ไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดได้เลย

แหล่งข่าวรายหนึ่งที่ใกล้ชิดกับนักเตะคนสำคัญในทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด บอกว่า ผู้เล่น “ปีศาจแดง” หลายคนต้องใช้ Google เพื่อค้นหาประวัติของ รังนิก หลังจากเข้ามารับตำแหน่งแทน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ในทางตรงกันข้าม หาก แมนฯ ยูไนเต็ด เลือกแต่งตั้ง อันโตนิโอ คอนเต้, ซีเนอดีน ซีดาน, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หรือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซึ่งราชื่อทั้งหมดนี้ได้รับการหารือโดยคณะกรรมการของสโมสรแล้วนั้น คงไม่มีผู้เล่นคนใดจะต้องใช้ Google เพื่อค้นหาประวัติของโค้ชคนใหม่

ขณะเดียวกัน หลังจากศึกษาภูมิหลังของ รังนิก แล้ว นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้พบกับโค้ชที่พัฒนาทีมและผู้เล่นระดับกลางของเกมได้ดีในเยอรมันกับสโมสรต่างๆ เช่น ชาลเก้ 04, ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมไปถึง แอร์เบ ไลป์ซิก

แต่ รังนิก ยังไม่เคยคุมสโมสรระดับชั้นนำของยุโรป และคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้เลย ซึ่งบนพื้นฐานดังกล่าว นายใหญ่วัย 63 ปี ต้องสร้างความประทับใจอย่างรวดเร็วด้วยแท็คติกของเขา แต่หลังจากผ่านไป 6 เกมที่คุมทีม ซึ่งต้องหยุดชะงักจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เขาก็ถูกตั้งคำถามทันที

ตามแท็คติกแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ได้พยายามที่จะดันขึ้นสูงในบางเกม และก็ล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัดอาทิในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งพวกเขาเริ่มต้นเกมในระบบ 4-2-2-2 แต่มันดูไม่ใช่แนวทางที่ดีเลย

ในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกบุกโจมตีในตำแหน่งมิดฟิลด์ก่อนที่จะเปลี่ยนจาก 4-2-2-2 มาเป็นระบบ 3-5-2 ซึ่งทำให้พวกเขาดีขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนจะโดน “หมาป่า” บุกมาเก็บชันได้ถึงบ้าน

เมื่อแผนแท็คติกของผู้จัดการทีมล้มเหลว มันจะนำไปสู่ความสงสัย และความสับสนในหมู่ผู้เล่น ผู้จัดการทีมควรจะนำมาซึ่งความชัดเจน แต่ รังนิก กลับล้มเหลวจนถึงตอนนี้ และดูเหมือนว่า จะเป็นงานที่ยากลำบากของเขาแล้ว

แหล่งข่าวระบุว่า ผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด บางคนรู้สึกแย่กับผลงานในช่วงแรกๆ ของ และการสรรหาบุคลากรเข้ามาร่วมงานด้วย แต่เขาต้องการเวลาเพื่อเอาชนะใจลูกทีมเพื่อยืนยันสถานะตัวเองในการทำงานกับ “ปีศาจแดง”

โมเมนตัมในช่วงแรกๆ ที่โค้ชใหม่ทุกคนต้องการ และความต้องการต่าง ๆได้หายไปเกือบหมดก่อนที่ รังนิก จะมาถึงด้วยซ้ำ จากนี้ไปเขากำลังต่อสู้เพื่อผลลัพธ์ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งนั่นไม่ใช่สถานที่ที่ดีสำหรับผู้จัดการทีมที่จะเข้ามาทำงานเลยแม้แต่น้อย