เวลาของ อารอน แรมซีย์ กองกลางทีมขาติเวลส์กับ ยูเวนตุส สโมสรดังแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้วหลังจบฤดูกาลนี้ และอนาคตของเขาก็ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ผู้จัดการทีม ยูเวนตุส กล่าวยืนยันว่า แรมซีย์ ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเขาแล้ว และจะต้องย้ายออกในซัมเมอร์นี้ โดยดาวเตะวัย 31 ปี ก็พร้อมจะย้ายออกจากทัพ “เจ้าม้าลาย” เช่นเดียวกัน
แรมซีย์ ย้ายจาก อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาเล่นกับ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัวในปี 2019 และได้รับค่าเหนื่อยจาก “เจ้าม้าลาย” อย่างมหาศาลถึง 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งมันอาจเป็นปัญหากับสโมสรใหม่ของเขาที่ต้องแบกรับค่าเหนื่อยจำนวนดังกล่าว
อิวาน โรเบิร์ตส อดีตกองหน้าชาวเวลส์ กล่าวถึง แรมซีย์ ว่า “อารอน ยังไม่ได้เป็นตัวจริงให้กับ ยูเวนตุส ในซีซั่นนี้เลย และเขาอาจไม่ได้เล่นอีกเลยในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับ อารอนที่ ยูเวนตุส แต่เหตุผลหลักคือเพราะเขาได้รับบาดเจ็บมาเป็นเวลานาน และตอนนี้สโมสรต่างๆ จะต้องเสี่ยงในการเซ็นสัญญากับเขา”
สถานการณ์ที่ยากลำบากของ อารอน แรมซีย์
มิดฟิลด์ชาวเวลส์ มีปัญหาในการปรับตัวลงเล่นในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนสมัยที่เคยเล่นกับ อาร์เซน่อล ที่เขาระเบิดฟอร์มด้วยการซัดไปถึง 61 ประตู จากการลงเล่น 259 นัดรวมทุกรายการ
นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2019 นั้น แรมซีย์ มีโอกาสลงสนามไปเพียง 69 เกม และโดนปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัญหาจากสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์นั้น ทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสสอดแทรกเป็นตัวจริงในทีมเลย
ขณะเดียวกัน หลังจาก อัลเลกรี เข้ามาคุมทีมแทน อันเดรีย ปีร์โล เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น แรมซีย์ ก็กลายเป็นส่วนเกินของทีมทันที โดยจนถึง ณ เวลานี้ อดีตกองกลาง อาร์เซน่อล ลงเล่นรวมทั้งหมดน้อยกว่า 100 นาที
รายงานข่าวระบุว่า แรมซีย์ กำลังได้รับความสนใจจาก เบิร์นลีย์ ให้หวนกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีก อีกครั้ง แต่เจ้าตัวตอบปฏิเสธไปเรียบน้อยแล้วเนื่องจากอยากลงเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือสโมสรระดับท็อปกว่านี้
อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเปลี่ยนเจ้าของสโมสรใหม่นั้น ก็ให้ความสนใจจะเซ็นสัญญากับ แรมซีย์ เช่นเดียวกัน และดูเหมือนว่า พลพรรค “สาลิกาดง” จะเป็นตัวเต็งที่ได้ ดาวเตะวัย 31 ปี ไปเสริมทัพ
คริสตัล พาเลซ, เอฟเวอร์ตัน และ ลีดส์ ยูไนเต็ด รวมถึงสโมสรในสเปน, เยอรมัน และฝรั่งเศสต่างก็อยากได้ตัว แรมซีย์ เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า บรรดาทีมเหล่านี้กำลังประสบผลกระทบทางการเงินจากโควิด-19 และไม่น่าจะจ่ายค่าเหนื่อยให้กับเจ้าตัว
แดนนี่ แกบบิดอน อดีตกองหลังทีมชาติเวลส์ ซึ่งเป็นเพื่อนของ แรมซีย์ แสดงความคิดเห็นว่า “ถ้าคุณไม่พูดถึงค่าจ้าง และมองดูเขาจากประสบการณ์ในการลงเล่นฟุตบอลทีมชุดใหญ่ ผมไม่เห็นว่า การย้ายไปยัง เบิร์นลี่ย์ จะเกิดขึ้นได้เลย มันไม่ใช่แนวทางที่ อารอน ต้องการ”
“นั่นจะเป็นการล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาหากเขาย้ายจาก ยูเวนตุส ไปเล่นกับ เบิร์นลีย์ ผมมองไม่เห็นเลยว่าจะเป็นไปได้ เพราะที่นั่นระบบการเล่นไม่เหมาะกับเขา ส่วน คริสตัล พาเลซ ? นั่นไม่ใช่ย้ายทีมที่แย่นักกับสไตล์การเล่นของพวกเขา”
โรเบิร์ตส กล่าเสริมว่า “นิวคาสเซิ่ล สามารถจ่ายเงินค่าเหนื่อยให้เขาได้อย่างไม่มีปัญหา พวกเขาสามารถจ่ายค่าจ้างในจำนวนที่เท่ากับ ยูเวนตุส ได้ แต่ถ้าเขาย้ายไปที่ นิวคาสเซิ่ล เขาอาจจะต้องตกชั้นไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยน ชิพ ในฤดูกาลหน้า ผมคิดว่า เลสเตอร์ ซิตี้ เหมาะกับเขามากที่สุดในเวลานี้”
นอกเหนือจากนิวคาสเซิ่ล บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเห็นคู่ครองของแรมซีย์ที่ตรงกับสัญญาปัจจุบันของเขา ดังนั้นการย้ายใดๆ อาจขึ้นอยู่กับความเต็มใจของยูเวนตุสที่จะอุดหนุนค่าจ้างของเขา หรือให้แรมซีย์ลดค่าจ้าง หรือทั้งสองอย่าง
ปัจจัยไปเล่นฟุตบอลโลกกับการตัดสินใจ
ในเร็วๆนี้ แรมซีย์ จะต้องจริงจังมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของเขา และรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในฤดูร้อน แต่สถานการณ์ของเขานั้นซับซ้อนมากขึ้นหากทีมชาติเวลส์ได้ไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ
เวลส์ หวังว่า พวกเขาจะสามารถไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปีได้สำเร็จ และสำหรับ แกเร็ธ เบล สตาร์ดังของทัพ “มังกรแดง” และ แรมซีย์ นั้น มันคือโอกาสสุดท้ายที่จะได้เล่นในฟุตบอลโลก
แกบบิดอน กล่าวเสริมว่า “อารอน ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของเวลส์ และบางทีทางเลือกของเขาอาจมีจำกัด มันขึ้นอยู่กับเขาในแง่ของความคาดหวังกับค่าจ้างของตัวเอง และเขาจะกระตือรือร้นที่จะเล่นฟุตบอลทีมชุดใหญ่จริงๆ”
“เวลส์ สามารถไปฟุตบอลโลกได้ และเขาก็อยากจะลงเล่นในรายการใหญ่แบบนี้ และฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับความเป็นไปได้แบบนั้นเช่นกัน”