ราอูล ฆิมิเนซ กับการเกิดใหม่ที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน

เกือบหนึ่งปีแล้วที่ ราอูล ฆิเมเนซ กองหน้าทีมชาติเม็กซิโกของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ ได้รับบาดเจ็บบริเวณกระโหลกศีรษะจากการปะทะกับ ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังของ อาร์เซน่อล ซึ่งทำให้เขาอาจถึงตายได้

ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฆิเมเนซ เป็นฮีโร่ซัดประตูชัยให้กับพลพรรค “หมาป่า” ซึ่งเส้นทางการกลับมาลงสนามของดาวยิงวัย 30 ปี นั้น ค่อนข้างยากลำบากพอสมควร

การบาดเจ็บของ ราอูล ฆิเมเนซ

ฆิเมเนซ ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนปี 2020 ในเกมที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน บุกไปเยือน อาร์เซน่อล โดยเจ้าตัวปะทะกับ ลุยซ์ ในจังหวะเตะมุมในนาทีที่ 15 ซึ่ง คอนเนอร์ โคดี้ กองหลังกัปตันทีม “หมาป่า” เห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน

โคดี้ เล่าว่า “ผมยืนอยู่ข้าง ราอูล เมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้น เขานิ่งไปเลย และผมคิดว่า มันไม่ดีแน่ๆ เพราะเลือดไหลออกจากจมูกของเขา ผมเคยเรียนมา 2-3 คอร์ส ตอนที่ผมยังเป็นเยาวชนที่ ลิเวอร์พูล และจำได้ว่า มีคนพูดว่าเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น คุณควรให้คนอยู่เคียงข้างพวกเขาในท่าที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง นั่นเป็นเหตุผลที่ผมบอกผู้เล่นคนอื่นอย่ามามุงเขา”

“แต่บอกตามตรง ในสถานการณ์แบบนั้น คุณไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร คุณเพียงแค่ต้องรอทีมแพทย์เข้ามาโดยเร็วที่สุด มันเป็นสถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่ผมเคยยเห็นมาเลย บุคลากรทางการแพทย์ของเรานั้นยอดเยี่ยมมาก แพทย์และนักกายภาพก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม คืนนั้นหลังจบเกม หมอคอยติดต่อกับผมเพื่อที่ผมจะได้แจ้งเพื่อนร่วมทีมทุกคนทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ราอูล”

“อย่างที่ผมบอกเลย ตอนนี้ผมขนลุกเมื่อพูดถึงมัน เราทุกคนต่างตื่นตระหนก มันไม่เกี่ยวกับ ราอูล เป็นนักฟุตบอลของทีมเรา แต่มันเกี่ยวกับการที่เราได้ ราอูล กลับคืนมา เราแค่อยากให้เขามีสุขภาพแข็งแรง เพราะนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

อย่างไรก็ตาม ประมาณ 3 สัปดาห์ต่อมา ฆิเมเนซ ฟื้นตัวเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เขากลับไปที่สนามซ้อมคอมป์ตัน พาร์ค ของ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยรอยแผลเป็นขนาดใหญ่จากอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของเขาซ่อนอยู่ใต้หมวกขนสัตว์ และความคล่องตัวของเขายังคงบกพร่อง แต่เขากำลังคิดเกี่ยวกับการกลับมาลงสนาม

โคดี้ เล่าต่อว่า “ผมจะไม่มีวันลืมที่ได้เห็น ราอูล กลับมาเป็นครั้งแรกหลังจากบาดเจ็บ มันเป็นช่วงเวลาที่สวยงาม ตอนนั้นเรากำลังซ้อมอยู่ และเขาเดินเข้ามามา เขาดูปกติดี มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเขา นั่นคือตอนที่ผมรู้ว่า เราได้เขากลับมาแล้ว”

“ในช่วงเวลานั้น ผม และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ไม่สนใจฟุตบอลแล้ว และถ้าเขาได้เล่นอีกครั้ง เราแค่ดีใจที่เขาอยู่ที่นี่ เขายิ้ม พูดคุย และหัวเราะไปกับเรา และเราเห็นว่าเขาไม่เป็นไร เขาเป็นส่วนประกอบสำคัญในห้องแต่งตัวของเรา”

“เขาเป็นคนที่ผมสามารถพูดด้วยได้ทุกเรื่อง เขาขายินดีจะหัวเราะเสมอ ผมรับประกันได้เลยว่า ผมใช้เวลากับ ราอูล มามากแล้ว และเขาก็อบอุ่นเสมอกับวิธีที่เขาพูดกับคุณ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่แรก”

“เขาพยายามสร้างผลกระทบให้คนรอบข้างในห้องแต่งตัว และเขาก็เหมือนกันในสนามด้วยความมุ่งมั่นในการทำงานของเขา เขาเป็นเหมือนเดิมตั้งแต่ย้ายมาในปี 2019 กับสิ่งที่เขาให้เราในการฝึกซ้อมทุกวันเช่นเดียวกับในเกม นั่นเป็นสิ่งที่ผู้คนมักไม่ค่อยเห็น แต่ความเต็มใจที่จะทำงานของเขานั้นโดดเด่นอยู่เสมอ

“การได้เขากลับมาที่สนามนั้นเป็นเรื่องที่วิเศษมาก แม้ว่าเขาจะแค่ปั่นจักรยานออกกำลังกายหรือวิ่งจ็อกกิ้งไปรอบสนามในขณะที่เราฝึกซ้อมก็ตาม เขาเป็นคนกล้าหาญ เพราะเขาเพิ่งจะผ่านพ้นสิ่งที่อาจเป็นอาการบาดเจ็บร้ายแรงที่สุดที่คุณจะได้รับจากการเล่นฟุตบอล แต่เขาก็ผ่านมันมาได้”

ราอูล ฆิเมเนซ

การกลับมาของ ราอูล ฆิเมเนซ

เพียงแปดเดือนหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฆิมิเนซ กลับมาสวมเสื้อ วูล์ฟแฮมป์ตัน ลงสนามได้อีกครั้ง โดยหัวหอกเม็กซิกันได้ลงเล่นในเกมเปิดฤดูกาลกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคาที่ผ่านมาอีกด้วย และประตูแรกในปีนี้ก็มาในเกมกับ เซาแธมป์ตัน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

หลังจากนั้น ฆิมิเนซ ก็ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องทั้งในนามสโมสร และทีมชาติเม็กซิโก โดย โคดี้ กล่าวว่า “ผมไปหาหมอมาระยะหนึ่งเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว โดยถามว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่ ราอูล จะกลับมา ผมอาจจะเห็นแก่ตัว แต่เพียงเพราะผมรู้ว่าความแตกต่างที่เขาสร้างให้กับทีมของเรา เขาช่วยให้เราชนะเกม”

“มันเป็นเรื่องพิเศษมากที่ได้เขากลับมาเล่นให้กับเรา แต่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เราเริ่มเห็น ราอูล กลับมาเป็นผู้เล่นที่เขาเคยเป็นก่อนได้รับบาดเจ็บ และมันเป็นความยินดีที่ได้เห็น เขาเป็นกองหน้าระดับโลก และคุณจะเห็นว่าเราคิดถึงเขามากแค่ไหนเมื่อเราสูญเสียเขาไปเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งที่เขาทำเพื่อเราในฐานะทีมในตอนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อ”

“แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำประตูในบางเกม แต่เขาก็สำคัญอย่างมากกับเรด้วยวิธีการที่เขาทำ จากการครองบอล การเคลื่อนที่ และเขาจะเป็นคนแรกที่ตั้งรับจากแนวหน้าเสมอ ผมจำได้ว่า ประตูแรกของเขามาในเกมกับ เซาแธมป์ตัน มันเหมือนกับ ราอูล ในสมัยก่อนเลน เขาเอาชนะกองกลัง 2 คนได้”

“การได้เห็นเขากลับมาอยู่ในการเล่นระดับนี้ และในสภาพร่างกายแบบนี้ ผมแค่รู้สึกภูมิใจมากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะผมรู้จักเขามานานแล้ว และชัดเจนว่าผมรู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง ผมหวังว่าเขาจะรู้ว่าเพื่อนร่วมทีมของเขารักเขามากแค่ไหน และแฟน ๆ และทุกคนในสโมสรคิดอย่างไรกับเขา ทุกคนรักเขาในฐานะผู้เล่นและบุคคล”

, , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *