การเข้ามาทำงานเป็นผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ต่อจากกุนซือที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นงานที่ยากอยู่แล้ว และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
โซลชา เข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 และก็ได้แต่งตั้งให้คุมทีมถาวรในเวลาต่อมา และเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โค้ชชาวนอร์เวย์ ก็เพิ่งจรดปากกาขยายสัญญาฉบับใหม่กับ “ปีศาจแดง” ออกไปอีก 3 ปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศปลด โซลชา เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังทำผลงายได้อย่างย่ำแย่ในปีนี้ และนี่คือความผิดพลาดที่ทำให้เทรนเนอร์วัย 48 ปี โดนตะเพิดออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
1. โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่ส่งดีน เฮนเดอร์สัน ลงเล่นนัดชิงฯในศึกยูโรป้า ลีก
มันง่ายที่จะพูดย้อนหลังว่า ดาบิด เด เคอา นายทวารชาวสเปนเสีย 11 ประตู ในการดวลจุดโทษกับ บียาร์เรอัล ในศึกฟุตบอลยูโรป้า ลีก นัดชิงดำเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ โซลชา ก็รู้อยู่แก่ใจว่า โกล์วัย 31 ปี เซฟจุดโทษไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2016 แล้ว
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า เฮนเดอร์สัน น่าจะทำผลงานได้ดีกว่า เด เคอา ในการเซฟจุดโทษ ซึ่งหาก โซลชา พา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ได้สำเร็จนั้น บางทีเส้นทางอาชีพกุนซือของเขากับ “ปีศาจแดง” น่าจะยืดระยะเวลาไปได้นานกว่านี้อีก
ถึงแม้จะเป็นนายทวารมือ 2 แต่ เฮนเดอร์สัน ไม่ได้มีปฏิกิริยาการป้องกันประตูด้อยกว่า เด เคอา เลย และบางทีเขาอาจจะเซฟลูกจุดโทษได้ดีกว่า มือกาวชาวสเปนด้วยซ้ำ ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่งที่ โซลชา ไม่ตัดสินใจเลือกเขาลงเฝ้าเสา
2. ไม่ขาย เจสซี่ ลินการ์ด และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค
ในสมัยที่ เฟอร์กูสัน คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น เขามีขุมกำลังที่เต็มไปด้วยคุณภาพ โดยผู้เล่นแบ็คอัพอย่าง ปาร์ค จี ซอง กองกลางชาวเกาหลีใต้, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ มิดฟิลด์ชาวสก็อตแลนด์ และ หลยุส์ ซาฮา หัวหอกชาวฝรั่งเศสอยู่บนมานั่งสำรอง และพร้อมจะพลิกสถานการณ์เมื่อทีมเสียเปรียบ
บางทีนั่นอาจเป็นความคิดของ โซลชา ที่เลือกจะเก็บ ลินการ์ด และ ฟาน เดอ เบค ไว้ในทีมก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่มขึ้น แต่เขาลืมนึกไปว่า ตัวเองไม่ใช่ เฟอร์กูสัน ที่สามารถบริหารทีมได้อย่างสุดยอด และนักเตะอย่าง ลินการ์ด และ ฟาน เดอ เบค ก็ต้องการโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ การที่ โซลชา มีผู้เล่นชื่อดังอยู่บนม้านั่งสำรองนั้น มันไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะเขาไม่สามารถสร้างความสมดุลในทีมได้มากพอเหมือนกับ เฟอร์กูสัน
3. ไม่ซื้อกองกลางตัวรับเข้ามาเสริมทัพ
ทุกคนรู้ดีว่า มิดฟิลด์ตัวรับเป็นตำแหน่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดหายมานานแล้ว และไม่ใช่ว่า พวกเขาไม่มีเงินเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวในฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ โซลชา กลับเมินเฉยโดยไม่มองหาห้องเครื่องระดับคุณภาพเขามาร่วมทีม
โซลชา เลือกที่ขะให้ สก็อต แมคโทมิเนย์ และ เฟร็ด ยืนเป็นกองกลางคู่กัน แต่ทั้งคู่ไม่ใช่มิดฟิลด์ที่โดดเด่นในการเล่นเกมรับ หรือคอยควบคุมจังหวะของเกมเลย ซึ่งทำให้เกมแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาอย่างหนัก
แน่นอนว่า กองกลางตัวรับต้องเป็นตำแหน่งแรกที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ “ปีศาจแดง” จะเสริมทัพอย่างเร่งด่วน
4. รีบใช้งาน แฮร์รี แม็คไกวร์ มากเกินไป
ฟอร์มที่ย่ำแย่ของ แม็คไกวร์ เป็นเหตุผลสำคัญพอๆ กับที่ว่า ทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงออกสตาร์ทได้
อย่างแย่ในฤดูกาลนี้ โดยปีที่ผ่านมากองหลังทีมชาติอังกฤษทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ได้เล่นผิดพลาดเยอะแบบนี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกที่จะให้ จอห์น สโตนส์ พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจบศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 กับทีมชาติอังกฤษ แต่ โซลชา กลับเร่งให้ แม็คไกวร์ ลงสนามทั้งที่กรำศึกหนักมา
ราฟาเอล วาราน กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสที่เซ็นสัญญามาจาก เรอัล มาดริด และ วิคตอร์ ลินเดลอฟ ปราการหลังชาวสวีเดน ก็มีศักยภาพพอที่จะยืนคุมแนวรับแทน แม็คไกวร์ ในช่วงต้นฤดูกาลได้ แต่ โซลชา กลับไม่คิดแบบนั้นจนทำให้ แม็คไกวร์ ฟอร์มหลุดมาจนถึงตอนนี้
5. โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
จากมุมมองของนักวิเคราะห์หลายๆคน โรนัลโด้ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียสมดุลอย่างหนัก โดยประการแรกเขาทำให้ เอดิสัน คาวานี่ กองหน้าจอมเก๋าชาวอุรุกวัยต้องตกไปเป็นตัวสำรอง และข้อต่อมา เขาทำให้ เมสัน กรีนวู้ด หัวหอกดาวรุ่งต้องถูกจับไปเล่นเป็นตัวริมเส้น
โซลชา เลือกที่จะคว้าตัว โรนัลโด้ กลับมาเพื่อหวังปลุกความฮึกเหิมในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด แต่มันกลายเป็นว่า ซุเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสทำให้แนวรุกของ “ปีศาจแดง” ไม่ไหลลื่นเหมือนเคย และเพื่อนร่วมทีมก็ต้องคอยป้อนบอลให้เขาเป็นหลัก
โรนัลโด้ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ โซลชา ต้องตกงาน แต่หากพิจารณเหตุผลต่างๆแล้ว รวมถึงผลงานที่ย่ำแย่บางทีโค้ชชาวนอร์เวย์ก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องอำลา “ปีศาจแดง”