หลุยส์ ดิอาซ จุดเริ่มต้นยุคใหม่ “หงส์แดง”

การย้ายตัวของ หลุยส์ ดิอาซ ตัวรุกทีมชาติโคลอมเบีย จาก เอฟซี ปอร์โต้ มายัง ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 37.5 ล้านปอนด์นั้น มันเป็นการบ่งบอกว่า “หงส์แดง” กำลังจะถ่ายเลือดใหม่ในเร็วๆนี้แล้ว

ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเซ็นสัญญากับ ดิอาซ ตัดหน้าคู่แข่งร่วมลีกอย่าง ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ซึ่งกูรูหลายคนมองว่า มันเป็นการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมของ “หงส์แดง” ในระยะยาว

ก่อนหน้านี้ ปีกวัย 25 ปี ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ สเปอร์ส และก็เป็น จูเลียน วอร์ด ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของ “หงส์แดง” ที่จะเข้ามารัยงานต่อจาก ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส หลังจบฤดูกาลนี้เป็นคนเจรจาคว้าตัว ดิอาซ มายังถิ่น แอนฟิลด์ แบบสายฟ้าแลบ

หลุยส์ ดิอาซ ตัวรุกทีมชาติโคลอมเบีย คนแรกที่จะเล่นให้ ลิเวอร์พูล

ขณะเดียวกัน ดิอาซ จะสร้างประวัติศาสต์ด้วยการเป็นนักเตะชาวโคลอมเบียจรายแรกที่ได้เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล และแน่นอนว่า เขาจะนำสไตล์การเล่นใหม่ๆ มีความเร็วที่ยอดเยี่ยม คุณภาพทางเทคนิค และการจบสกอร์ที่เฉียขาดมาสู่ทีมของ คล็อปป์

คล็อปป์ กล่าวหลังการเซ็นสัญญากับ ดิอาซ ว่า “เขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น และเป็นคนที่เราติดตามมาเป็นเวลานาน เราเชื่อว่าเขามีทุกอย่างที่จำเป็นในการเข้ามาเล่นในแนวทางของเรา และปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีกได้ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ”

อดีตมิดฟิลด์ ปอร์โต้ เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายเป็นหลัก และจะมีทีเด็ดจากการลากบอลมายิงด้วยเท้าขวา ซึ่งสไตล์ของเขานั้น คล้ายคลึงกับ ซาดิโอ มาเน่ ปีกทีมชาติเซเนกัล ของ ลิเวอร์พูล และแน่นอนว่า ทั้ง 2 คน จะต้องแย่งตำแหน่งตัวจริงกันอย่างดุเดือด

นอกจากนี้ ด้วยการพูดคุยทั้งหมดของ ลิเวอร์พูล ที่มุ่งเน้นไปที่การต่อสัญญาฉบับใหม่สัญญาของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ปีกชาวอิยิปต์ แต่ในขณะเดียวกันสัญญาของ มาเน่ ก็เหลืออีกเพียงแค่ 18 เดือน และยังไม่มีการเริ่มต้นเจรจากันแต่อย่างใด

มาเน่ จะอายุ 31 ปี เมื่อสัญญาของเขากับ ลิเวอร์พูล หมดลงในฤดูร้อนปี 2023 บวกกับฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอใน 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น มันก็สมเหตุสมผลที่ทำไม “หงส์แดง” ถึงรีบคว้าตัว ดิอาซ มาร่วมทีมในตลาดรอบนี้ทันที

ในปี 2020 ลิเวอร์พูล คว้าตัว ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสมาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส และถูกมองว่าเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมในการเข้ามาแบ่งเบาภาระของ 3 ประสานอย่าง มาเน่, ซาล่าห์ และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่

อย่างไรก็ตาม ด้วยการมาถึงของ ดิอาซ มันจึงเกิดคำถามก็คือว่า คล็อปป์ จะบริหารแนวรุกอย่างไรในเมื่อเขาชอบทีมที่มีขนาดเล็ก แต่ตอนนี้ตัวเหลือกในแดนหน้าของ ลิเวอร์พุล นั้น มีให้เลือกใช้งานมากมายไปจนจบฤดูกาลนี้

ลิเวอร์พูล ในฐานะสโมสรฟุตบอลพวกเขาก็ต้องดำเนินแนวทางการทำธุรกิจที่เหมาะสม และมันสมเหตุสมผลมากที่จะขายหนึ่งใน 3 กองหน้าออกไป โดยที่ เฟอร์มิโน่ อายุ 30 ปีแล้ว และ มาเน่ กับ ซาล่าห์ ก็กำลังจะอายุครบ 30 เช่นกัน และมันคงไม่ดีแน่หากจะเก็บทั้ง 3 รายเอาไว้ และมอบสัญญาใหม่ให้พวกเขาทั้งหมด

แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล กำลังมองหาหนทางที่จะเก็บ ซาล่าห์ เอาไว้ ด้วยสัญญาใหม่สำหรับผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกยุคนี้ แต่ เฟอร์มิโน่ ก็เริ่มกลายเป็นตัวสำรองของ โชต้า และ มาเน่ ก็กำลังถูกท้าทายด้วยนักเตะใหม่อย่าง ดิอาซ

มาเน่ ยังคงเป็นนักเตะที่มีคุณภาพสูงที่หลายทีมในยุโรปอยากได้ตัวไปร่วมทีม ในขณะที่ ดิอาซ มีค่าจ้างเพียงครึ่งหนึ่งของ ปีกเซเนกัล ดังนั้น มันคงสมเหตุสมผลสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะขายเขาออกไปก่อนเหลือสัญญา 12 12 เดือนสุดท้าย ซึ่งเขาสามารถย้ายทีมได้แบบฟรีๆ

แนวรุกสายเลือดใหม่ของ ลิเวอร์พูล

ในระยะสั้น การมาของ ดิอาซ อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ มาเน่ เพราะมันจะทำให้เขาต้องเค้นฟอร์มเก่งออกมา แต่บางที มาเน่ ก็ตระหนักดีว่านี่คือ ฤดูกาลสุดท้ายของเขาในแอนฟิลด์แล้ว และอาจจะยุติช่วงเวลา 6 ปี กับ “หงส์แดง” เอาไว้เพื่อไปหาความท้าทายใหม่ๆ

ขณะเดียวกัน คล็อปป์ ไม่ค่อยนำผู้เล่นใหม่มาลงสนามทันที เนื่องจากเขาต้องการให้ผู้เล่นได้ปรับตัวกับระบบเพรสซิ่งอันหนักหน่วง และแนวทางทางการเล่นของทีม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในทัพ “หงส์แดง”  และนี่คือสิ่งที่ ดิอาซ จะต้องเรียนรู้

ดิอาซ จะได้เรียนรู้จาก มาเน่ โดยตรง และเนื่องจาก ลิเวอร์พูล มีการแข่งขันมากมายหลายรายการจึงทำให้ คล็อปป์ ต้องหมุนเวียนผู้เล่น ซึ่งทำให้ ดิอาซ จะค่อยๆได้ปรับตัว และเรียนรู้แนวทางการเล่นภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์

โชต้า อายุ 25 ปี เท่ากับ ดิอาซ และตอนที่ ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญากับ ซาล่าห์ เขาก็อายุ 25 ปี ขณะที่ มาเน่ ถูกคว้ามาตอนอายุ 24 ปี และ เฟอร์มีโน่ ย้ายมาตอนอายุ 23 ปี ซึ่งทุกคนที่กล่าวว่า ผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาระดับหนึ่งแล้วก้อนจะย้ายมาเล่นกับ “หงส์แดง”

คล็อปป์ กำลังวางแผนสำหรับทั้ง 2 ฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ ลิเวอร์พูล ซึ่งโค้ชชาวเยอรมันจะอำลาทีมในปี 2024 และตอนนี้ โชต้า กับ ดิอาซ จะก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนในเกมรุกของ “หงส์แดง” เวอร์ชั่นใหม่