ออสการ์ การ์เซีย ผู้ปั้น แร็งส์ สู่ยอดทีม

ออสการ์ การ์เซีย กุนซือของ แร็งส์ สโมสรดังแห่งศึก ลีกเอิง เปิดเผยถึงสิ่งที่ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมมหาเศรษฐีแห่งอังกฤษ ให้ความสนใจในตัวของ อูโก้ เอกิติเก้ กองหน้าวันเดอร์คิดชาวฝรั่งเศส อย่างมากในตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา และแนวทางในการทำงานของตัวเอง 

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลก่อน เอกิติเก้ ลงเล่นให้กับ แร็งส์ ไปเพียง 86 นาที แต่ในซีซั่นนี้ หัวหอกวัย 19 ปี พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดจนมาเป็นคีย์แมนในเกมรุกของทีม และระเบิดผลงานด้วยการซัดไปถึง 9 ประตูจาก 20 เกมรวมทุกรายการ

ออสการ์ การ์เซีย

ออสการ์ การ์เซีย กับแนวทางการทำงาน

การ์เซีย เริ่มกล่าวว่า “อูโก้ กลับมาในช่วงพรีซีซั่น และเป็นกองหน้าตังเลือกลำดับ 4 ในทีมของเรา แต่ เรามองเห็นในช่วงปรีซีซั่นแล้วว่า เขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่จำเป็นในการก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าระดับท็อปของวงการฟุตบอล”

“ในทางเทคนิคเขาเก่งมากๆ เขารวดเร็ว แต่เขาต้องพัฒนาด้านร่างกายอีกนิดหน่อย และสำหรับผมเขาเป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นให้สโมสรระดับท็อปทีมใดกฌได้ เราได้ปรับปรุงเขาไปพอสมควรแล้ว เขาควรจะพัฒนาตัวเองต่อไป”

นี่คือแนวทางการสร้างทีมของ แร็งส์ โดยในปีนี้พวกเขามีนักเตะถึง 12 รายในทีมที่อายุต่ำกว่า 21 ปี ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ และแผนคือ การพัฒนาดาวรุ่งเหล่านั้นต่อไป ขณะที่ความสนใจในตัว เอกิติเก้ จากทีมต่างๆก็แสดงให้เห็นแล้วว่า แนวทางของพวกเขาประสบผลสำเร็จ

การ์เซีย ยอมรับว่า รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่นักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีต้องเดินออกจากสโมสรไป แต่เขาก็เข้าใจได้เพราะมันเป็นธุรกิจในวงการฟุตบอล โดยระบุว่า  “ไม่ใช่เรื่องปกติที่สโมสรจะอธิบายให้คุณฟังก่อนเซ็นสัญญากัน แต่นี่เป็นความจริง เรามีผู้เล่นอายุน้อย มีนักเตะที่มีความสามารถ”

“ปรัชญาของสโมสรแห่งนี้คือ การส่งเสริมผู้เล่นอายุน้อยเหล่านั้น ให้โอกาสพวกเขาได้เล่นในลีกที่ดีก่อนที่จะไปสโมสรที่ใหญ่กว่าในประเทศอื่นๆ ผมชอบที่จะทำงานกับผู้เล่นอายุน้อยเหล่านี้มาก สำหรับผมมันคือ ของขวัญที่วิเศษมากในฐานะโค้ช”

แร็งส์ เป็นสโมสรเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเคยคว้าแชมป์ลีกฝรั่งเศสถึง 6 สมัย และเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลยุโรปถึง 2 ครั้ง แต่ในช่วงหลังพวกเขาอยู่ไกลจากความสำเร็จในอดีตอย่างมาก และมีแนวทางในการทำทีมของตัวเอง

ขณะเดียวกัน การ์เซีย กำลังพยายามผสมผสาน 2 สไตล์ที่มีอิทธิพลต่อเขาในฐานะนักเตะ และโค้ชให้กับ แร็งส์  โดยความคิดของเขามีรากฐานมาจากสมัยเล่นกับ บาร์เซโลน่า และได้เรียนรู้จากช่วงเวลาที่เป็นสตาฟฟ์โค้ชของ ราล์ฟ รังนิก ที่ เร้ดบลูล์ ซัลซ์บวร์ก

นายใหญ่วัย 48 ปี กล่าวต่อว่า “วิสัยทัศน์ที่ผมมีคือปรัชญาที่ชัดเจน ผมโตที่ บาร์เซโลน่า ผมเล่นให้บาร์เซโลน่า มา 18 ปี หลังจากนั้นผมก็เป็นโค้ชให้กับทีม U19 ที่นั่นด้วย  เรายังคงทำงานมากมายด้วยปรัชญาเดียวกัน และการเคลื่อนไหวแบบเดียวกัน”

“แต่ผมก็อยากเรียนรู้จากปรัชญาอื่นด้วย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงไปต่างประเทศเพื่อเป็นทีมงานกับหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดคือ ซัลซ์บวร์ก เพราะผมเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรโดยไม่มีลูกบอล ผมเรียนรู้ปรัชญาของพวกเขามากมาย”

“ผมไปที่นั่นเพื่อพัฒนาตัวเอง เพราะผมไม่รู้ทุกอย่าง ผมเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับเกมโดยไม่มีลูกบอล มันชัดเจนมากในแต่ละส่วนของสนาม วิธีการกดดัน วิธีกาสวนกลับ ผมได้พยายามนำมาปรับใช้กับงานของตัวเอง”

ฟุตบอลอังกฤษมีผลกระทบต่อ การ์เซีย เช่นกัน เนื่องจากเขาเป็นโค้ชให้กับ ไบรท์ตัน และ วัตฟอร์ด โดยยังคงนึกถึงประสบการณ์ครั้งแรกในการคุมทีมในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดยเล่าว่า “เราออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ตอนที่ผมออกมาจากห้องแต่งตัว เสียงแฟนบอลดังมากๆ มันสุดยอดจริงๆ”

“ผมกำลังคิดว่า นี่คือที่ของผม ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากนักเตะ ทัศนคติของนักเตะอังกฤษ มันต่างกันมาก ผมต้องคุมทีมลงเล่นทุกๆ 2-3 วัน ผมไม่คุ้นเคยกับการฝึกทีมแบบนั้นเลย ผมต้องปรับเปลี่ยนการฝึกซ้อมที่นั่น”

ประสบการณ์มากมาย และเป้าหมายในอนาคต

การ์เซีย มีช่วงเวลาดีๆสมัยเป็นนักเตะ บาร์เซโลน่า ซึ่งเขาได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานโค้ชชาวดัตช์ และยังมีโอกาสได้ลงเล่นกับผู้เล่นดังๆมากมาย โดยระบุว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ โยฮัน สอนเราคือต้องเข้าใจเกมเพื่อดูว่า เกิดอะไรขึ้น และทำไมมันถึงเกิดขึ้น และสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในสนาม”

“มันเป็นการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม ผมมีโอกาสได้เล่นกับ หลุยส์ ฟิโก้, โรมาริโอ้, โรนัลโด้, ริวัลโด้, ไมเคิ่ล เลาดรุป, ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ และ โรเบิร์ต โปรซิเนคกี้ พวกเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้บอลคืนจากพวกเขา”

“ผมจำได้ว่า โยฮัน สอนผมหลายสิ่งหลายอย่าง และตอนนี้ความคิดของผมคือ สอนผู้เล่นเหล่านี้ให้มีความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีการเล่น เข้าใจเกม คิดเพื่อตัวเอง และไม่เพียงแต่ทำในสิ่งที่โค้ชขอเท่านั้น”

“สำหรับผู้เล่นอายุน้อย คุณไม่ควรแค่บอกให้พวกเขาทำอย่างนั้น พวกเขาต้องการความคิดสร้างสรรค์ แน่นอน คุณควรให้คำแนะนำบางอย่างแก่พวกเขา แต่พวกเขาไม่ใช่เครื่องจักร พวกเขาควรพัฒนาตนเอง มีอิสระในการแสดงศักยภาพของพวกเขาออกมา”

 “สิ่งแรกที่ผมชอบทำกับลูกทีมคือ รู้จักบุคลิกของพวกเขา ดังนั้น ผมจึงสัมภาษณ์พวกเขาทั้งหมดเป็นรายบุคคล มันช่วยให้คุณรู้ว่าอันไหนที่คุณสามารถให้อิสระได้ และอันไหนที่คุณทำไม่ได้ คุณต้องปฏิบัติกับทุกคนต่างกันเพราะพวกเขามีบุคลิกของตัวเอง”

การ์เซีย มีความทะเยอทะยานอย่างมาก โดยศึก พรีเมียร์ลีกยัง คงเป็นเป้าหมายของเขาในการไปทำงาน และแน่นอนว่า เขาหวังว่า จะมีโอกาสเป็นโค้ชของ บาร์เซโลน่า ในสักวันหนึ่ง โดยระบุว่า “บาร์ซ่า เป็นสโมสรในหัวใจของผม แต่ตอนนี้ผมต้องการพัฒนาตัวองในฐานะโค้ชทุกวัน และการพัฒนาผู้เล่นอายุน้อย ผมภูมิใจในสิ่งนี้”

, , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *