สิ่งที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องเจอในเล้า “ไก่”

ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สโมสรดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ ประกาศแต่งตั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ ยอกเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนเข้ามาคุมทัพแทนที่ นูโน่ เอสพิริโต ซานโต้ เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีหลายคำถามตามมาว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ “ไก่เดือยทอง” หรือไม่

ในช่วงที่ผ่านมา คอนเต้ ประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ ยูเวนตุส, เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรการันตีได้ว่า โค้ชวัย 52 ปี จะทำงานได้อย่างสุดยอดกับ สเปอร์ส ที่มีอะไรแตกต่างจากกลายสโมสรที่เข้าเคยทำงานมา

คอนเต้ จะต้องเจองานที่ท้าทายใน สเปอร์ส และต้องเจอคำถามมากมายซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า อนาคตของเขาจะลงเอยอย่างไรต่อไป และนี่คือสิ่งที่ กุนซือเลือดมะกะโรนีต้องเจอในถิ่น ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สเตเดี้ยม

ความคาดหวังในสไตล์การเล่น และงบประมาณเสริมทัพของ อันโตนิโอ คอนเต้

ในตอนที่จ้าง นูโน่ เข้ามาคุมทีมนั้น ดาเนียล เลวี่ ประธานสโมสร สเปอร์ส ต้องการให้ทีมมีแนวทางการเล่นสนุกเร้าใจเหมือนกับทีมในช่วงยุค 50-60 ที่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มากมาย และทำให้แฟนบอลอยากเข้ามาขมในสนามมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นูโน่ กลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามด้วยการทำให้ สเปอร์ส เป็นทีมที่เน้นเกมรับเป็นหลัก และไม่มีความสามารถในการครองบอลบุกใส่คู่แข่งได้เลย ซึ่งทำให้สาวก “ไก่เดือยทอง” ส่วนใหญ่ไม่พอใจกับสไตล์นี้

ขณะเดียวกัน คอนเต้ เป็นผู้จัดการทีมมีแนวทางที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง ซึ่งไม่มีใครสามารถสั่งการให้เขาทำในสิ่งที่แตกต่างออกไปได้ และ เลวี่ ก็ต้องยอมรับกับสไตล์การทำงานของอดีตเทรนเนอร์ เชลซี อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย

นอกจากนี้ ต้องมีคำถามเกิดขึ้นว่า คอนเต้ พอใจหรือไม่กับขุมกำลังของ สเปอร์ส ในชุดปัจจุบันที่มีนักเตะใหม่อย่าง คริสเตียน โรเมโร่ กองหลังทีมชาติอาร์เจนติน่า และ ไบรอัน กิล ปีกดาวรุ่งชาวสเปน เข้ามาเมื่อซัมเมอร์

สเปอร์ส ชุดนี้มีเพียง ซอง เฮือง มิน หัวหอกเกาหลีใต้ และ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เท่านั้นที่ดูจะเป็นนักเตะชั้นแนวหน้าของยุโรป และเขาก็จำเป็นต้องใช้ผู้เล่นที่มีอยู่ไปก่อนอย่างน้อยจนถึงตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้

กาบริเอเล่ มาร์กอตติ นักข่าวฟุตบอลชาวอิตาลีกล่าวถึงการที่ คอนเต้ ย้ายออกจาก ยูเวนตุส ว่า “พวกคุณเคยได้ยินประโยคที่โด่งดังเกี่ยวกับตอนที่ คอนเต้ ออกจาก ยูเวนตุส ได้ไหม เขาเคยบอกว่า สโมสรต้องการให้ผมไปกินข้าวนอกบ้านในร้านอาหารที่มีราคา 100 ยูโร โดยมีเงินให้ผม 10 ยูโรอยู่ในกระเป๋า ทำไมพวกเขาไม่ไปส่งผมที่ตลาดหละ”

คุณภาพในทีม และปัญหาในอนาคตที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ต้องเจอ

คอนเต้ พาทีม เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2016-2017 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” จบฤดูกาลด้วยอันดับ 10 ซึ่งอาจทำให้แฟนบอล สเปอร์ส คาดหวังว่า เขาจะทำได้แบบเดียวกันในฤดูกาลหน้า

อย่างไรก็ตาม หากมองถึงขุมกำลังในทีมระหว่าง เชลซี ในเวลานั้น กับ สเปอร์ส ชุดนี้แตกต่างกันพอสมควร โดย เชลซี มีนักเตะอย่าง เอเด็น อาซาร์, ดิเอโก้ คอสต้า และ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ อยู่ในทีมก่อนจะเซ็นสัญญากับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เข้ามา

ขณะที่ สเปอร์ส มี เคน กับ ซอง เป็นคีย์แมน ส่วนคนอื่นๆอย่าง อูโก้ ยอริส นายทวารทีมชาติฝรั่งเศสก็เริ่มโรยลาแล้ว เอริค ดายเออร์ ก็ไม่ใช่ผู้นำในแนวรับ ลูคัส มูร่า และ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ก็ยังฟอร์มการเล่นไม่สม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ในปีที่ คอนเต้ พา เชลซี คว้าแชมป์ลีกนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังเพิ่งสร้างทีมปีแรก ส่วน ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่มี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่ท็อปฟอร์มเป็นนักเตะระดับโลกเหมือนเวลานี้

ขณะที่ทีมในลีกอย่าง ไบรท์ตัน, คริสตัล พาเลซ, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ลีดส์ ยูไนเต็ด, วูล์ฟส์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส, เบรนท์ฟอร์ด และ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่แข็งแกร่งเหมือนตอนนี้ และนั่นคือสิ่งที่ คอนเต้ ต้องเจอ

 คอนเต้ มีสไตล์การทำงานคล้ายคลึงกับ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตโค้ชชาวโปรตุเกสที่ สเปอร์ส ปลดไปก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งคู่มีพื้นฐานมาจากการตั้งโซนเกมรับ และหาจังหวะโจมตีแบบฉาบฉวยเมื่อมีโอกาสจากความผิดพลาของคู่แข่ง

 นักเตะ สเปอร์ส อย่าง เดเล่ อัลลี่, โจวานนี่ โล เซลโซ่, มูร่า, เบิร์กไวจ์น และ แฮร์รี่ วิงค์ ต้องดิ้นรนอย่างหนักในยุคของ มูรินโญ่ และการเข้ามาของ คอนเต้ มันคงเป็นอะไรที่ไม่แตกต่างกันมากนักของบรรดาผู้เล่นเหล่านี้

 คอนเต้ กับ เลวี่ อาจไม่ได้มีความเห็นลงรอยกันทุกอย่าง และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เทรนเนอร์ชฃาวอิตาเลียนคนนี้จะเป็นคนที่เหมาะสมของ สเปอร์ส หรือไม่