อาร์เซน่อล สโมสร ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เทรนเนอร์หนุ่มชาวสเปน ปิดตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยความเงียบเหงาหลังจากไม่ได้นักเตะใหม่เข้ามายังถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เลยแม้แต่รายเดียว
พลพรรค “ไอ้ปืนใหญ่” ใช้เวลาในช่วงวันเดดไลน์ด้วยการปล่อย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้าเจ้าปัญหาชาวกาบองออกจากทีมไปเล่นกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังมีพฤติกรรมที่ออกนอกกรอบมาโดยตลอด
ขณะเดียวกัน แฟนๆ อาร์เซน่อล หลายคนก็รู้สึกกังวลที่ทีมไม่ได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพ และถูกมองว่า มีขุมกำบบังเชิงลึกด้วยที่สุดในบรรดา 6 สโมสรขั้นนำของแดนผู้ดี แต่นี่คือเหตุผลดีๆที่สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ไม่ควรคิดมากเกินไปกับการทำธุรกิจที่ไม่ตื่นเต้นในครั้งนี้
1. นักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมถูกปล่อยออกจาก อาร์เซน่อล สโมสร ยักษ์ใหญ่ ไปหมดแล้ว
ในเวลานี้ผู้เล่นหลายคนที่มีค่าเหนื่อยมหาศาล แต่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ อาร์เตต้า ถูกปล่อยออกไปหมดแล้ว ยกตัวอย่าง โอบาเมย็อง ที่อาจไม่ได้กลับมาเล่นให้กับสโมสรอีกเลยถูกปล่อยไปยัง บาร์เซโลน่า และ เซอัด โคลาซินัช แบ็กซ้ายชาวบอสเนีย ถูกยกเลิกสัญญาก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับ โอลิมปิก มาร์กเซย
ขณะที่ ปาโบล มารี กองหลังชาวสเปน ถูกปล่อยให้กับ อูดิเนเซ่ และ คัลลั่ม แชมเบอร์ส ปราการหลังชาวอังกฤษ ก็ย้ายไปยัง แอสตัน วิลล่า ขณะที่ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส กองกลางสารพัดประโยชน์ก็ย้ายไป โรม่า
จากรายชื่อที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น แทบจะไม่มีอนาคตในทีมของ อาร์เตต้า อีกแล้ว และการที่ อาร์เซน่อล ปล่อยพวกเขาออกไปก็ทำให้ประหยัดค่าเหนื่อยได้มากทีเดียว ซึ่งจะทำให้พวกเขามีเงินเสริมทัพอีกอีกครั้งในซัมเมอร์
2. โปรแกรมพรีเมียร์ลีก เหลืออีกเพียง 17 เกมเท่านั้น
จนถึง ณ เวลานี้ อาร์เซน่อล ลงเล่นในลีกไปแล้ว 21 และพวกเขาตกรอบฟุตจบอลถ้วย ลีก คัพ และตกรอบเอฟเอ คัพ ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่า พลพรรค “ไอ้ปืนใหญ่” เหลืองานในพรีเมียร์ลีกเพียง 17 เกมเท่านั้น
เมื่อพิจารณาแล้ว อาร์เซน่อล จะได้ลงเล่นสัปดาห์ละ 1 เกมเท่านั้น และพวกเขาก็มีนักเตะมากมายที่จะสลับหมุนเวียนกันลงสนามได้ รวมถึง อาร์เตต้า และทีมงาน ก็จะมีเวลามากพอในการทำให้บรรดาแข้ง “เดอะ กันเนอร์ส” ฟิตพร้อมลงสนามไปจนจบฤดูกาล
ขณะเดียวกันมันคงไม่สมเหตุสมผลที่ อาร์เซน่อล จะไม่ปล่อยนักเตะอย่าง โอบาเมย็อง, โคลาซินัช, มารี, แชมเบอร์ส และ เมตแลนด์-ไนล์ส ออกไป
3. มีทีมที่ขนาดเล็กลง และบริหารได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของการมีขนาดทีมเล็กไม่เพียงแต่นักดเตะจะเข้ากันได้ดีเพยีงอย่างเดียว แต่มันยังเอื้อต่อความสำเร็จมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย และตอนนี้ อาร์เซน่อล ก็ปลายเป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยอายุภายในทีมน้อยมากๆ
นอกจากนี้ การปล่อยแข้งซีเนียร์อย่าง โอบาเมย็อง ที่ทำตัวมีปัญหา และทำตัวไม่เป็นมืออาชีพออกไปนั้น ก็เหมือนการเชือดไก่ให้ลิงดู ซึ่งจะทำให้บรรดานักเตะดาวรุ่งควบคุมได้ง่าย และ อาร์เตต้า ก็จะได้ทำทีมตามแนวทางที่ตัวเองต้องการ
อย่างไรก็ตาม มันอาจเป็นความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักเตะอายุน้อย และบางทีกัปตันทีมคนใหม่อาจจะได้รับการแต่งตั้งในเร็วๆนี้ก็เป็นได้
4. อาร์เซน่อล สโมสร ยักษ์ใหญ่ ไม่ใช้เงินแบบตื่นตระหนก
จำได้ไหมว่า อาร์เซน่อล เกือบเสียเงินไป 92 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว โธมัส เลอมาร์ กองกลางชาวฝรั่งเศส มาจาก โมนาโก ในวันเดดไลน์เมื่อปลายปีที่แล้ว และนักเตะอย่าง เฮนริค มคิทาร์ยาน ก็ย้ายมาในตลาดเดือนมกราคม และก็ทำผลงานได้น่าผิดหวัง
การเซ็นสัญญาที่ไม่ถูกต้องในเดือนมกราคมนี้ อาจทำให้ทีมพังได้ง่ายๆ ซึ่งการที่คุณมีสัญญากับนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมเป็นระยะเวลานานๆนั้น มันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีแน่นอน ยกตัวอย่างล่าสุดในกรณีของ มคิทาร์ยาน ที่ตอนนี้ย้ายไปเล่นกับ โรม่า แล้ว
เอดู ผู้อำนวการกีฬาของ อาร์เซน่อล และ อาร์เตต้า ตัดสินในไม่คว้าตัวนักเตะใหม่เข้ามาในเดทอนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกเขามั่นใจในคุณภาพทีมชุดปัจจุบันว่า มีดีพอที่จะทำการแข่งขันไปจนจบฤดูกาลได้
อย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนเป็นดาบ 2 คมเช่นกัน เพราะหาก อาร์เซน่อล ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานนั้น เอดู และ อาร์เตต้า ก็อาจถูกโจมตีได้ แต่ในทางกลับกันถ้า “เดอะ กันเนอร์ส” ทำผลงานได้ดี พวกเขาก็คววรได้รับการชื่นชมสำหรับกาตัดสินใจใสนครั้งนี้
ไม่มีใครตอบได้ว่า การเดิมพันของ อาร์เซน่อล จะเป็นอย่างไร นอกจากช่วงจบฤดูกาล ซึ่งตารางคะแนนไม่เคยโกหกใครอยู่แล้ว