แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอล “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” อย่างมาก ซึ่งสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับ ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตโค้ชชาวสเปนมาก่อนเลย
ในช่วงครึ่งหลังของเกมฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ที่ เอฟเวอร์ตัน เปิดรัง กูดิสัน ปาร์ค ไล่ถล่ม เบรนท์ฟอร์ด แบบขสดลอย 4-1 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ชื่อของ แลมพาร์ด ดังกังวานไปทั่วอัฒจันทร์ของสนาม
แฟรงค์ แลมพาร์ด คนปลดปล่อย เอฟเวอร์ตัน
ขณะเดียวกัน ชัยชนะถล่มทลายเหนือ เบรนท์ฟอร์ด มันเป็นช่วงเวลาแห่งการปลดปล่อยจากกองเชียร์ เอฟเวอร์ตันอย่างแท้จริง หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องทนทุกข์ในยุคของ เบนิเตซ ซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล คู่อริตลอดกาล
ก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในเกมลีกหลังจากพ่ายให้กับ นอริช ซิตี้ และพ่ายคาบ้านให้กับ แอสตัน วิลล่า ซึ่งทพให้แฟนบอล “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ไม่พอใจอย่างหนัก และ ฟาฮัด โมชิรี่ เจ้าของสโมสรก็คลายความกดดันด้วยการปลด เบนิเตซ
โมชิรี่ เลือก แลมพาร์ด เข้ามาทำงานต่อจาก เบนิเตซ และการประเดิมคุมทีมเกมแรกของกุนซือวัย 43 ปี ก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยม ซึ่งถึงแม้ว่า เขาจะเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่กี่วัน แต่ก็สามรถปรับปรุงให้ เอฟเวอร์ตัน มีแนวทางการเล่นที่น่าสนใจมากกว่าเดิม
ชัยชนะเพียงเกมเดียวอาจจะไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นทันที และยังมีความต้องการจากแฟนบอลที่อยากให้ เอฟเวอร์ตัน พัฒนาไปมากกว่านี้ แต่ แลมพาร์ด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาอจจะเป็นคนที่เหมาะสมสำหรับงายนในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค
ก่อนเริ่มการแข่งขันกับ เบรนท์ฟอร์ด มีป้ายแบนเนอร์ขนาดยักษ์ห้อยลงมาจากสแตนด์ ซึ่งมีข้อความว่า “Best Of Luck Frank” ที่อาจเตือน แลมพาร์ด เป็นนัยๆถึงการตัดสินใจของ โมชิรี่ ที่เคยไล่อดีตเทรนเนอร์หลายรายอย่าง โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ, โรนัลด์ คูมัน, แซม อัลลาไดซ์, มาร์โก ซิลวา และ เบนิเตซ มาแล้วหลังเข้ามาเทคโอเวอร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016
อย่างไรก็ตาม แฟนบอล เอฟเวอร์ตัน หลายคนมีความสุขหลังจากที่ทีมขึ้นนำ เบรนท์ฟอร์ด ตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก และทีมก็เปิดตัวนักเตะใหม่ที่คว้ามาในเดือนมกราคมอย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค กองกลางชาวดัตช์ ที่ยืมตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เดเล่ อัลลี่ มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ ที่คว้ามาจาก ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
เอฟเวอร์ตัน โฉมใหม่ในยุค แลมพาร์ด
ชัดเจนว่าสไตล์ของ แลมพาร์ด จะเป็นการเน้นเกมรุกมากกว่าในยุค เบนิเตซ ซึ่งคิดว่า ผู้เล่นของเขาครองบอลได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ แลมพาร์ด เข้ามา และปลูกฝังแนวความคิดว่า อยากให้ลูกทีมของเขาเล่นบอลด้วยความสนุก
ในการฝึกซ้อมครั้งแรกของ แลมพาร์ด ได้รับความสนใจจากกองเชียร์เป็นจำนวนมาก และ อังเดร โกเมส กองกลางชาวโปรตุเกสที่เคยถูก เบนิเตซ จับเป็นตัวสำรองก็ดูเหมือน จะกลับมาเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุขอีกครั้ง
นอกจาก โกเมซ ในแผงมิดฟิลด์แล้ว แลมพาร์ด ยังมีนักเตะใหม่อย่าง ฟาน เดอ เบค และ อัลลี่ ที่จะเข้ามาเป็นกำลังเสริม นอกจากนี้ โดมินิก คัลเวิร์ต เลวิน หัวหอกตัวเก่งก็กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว แต่ที่น่าเสียดายคือ เบ็น ก็อดฟรีย์ กองหลังตัวเก่งได้รับบาดเจ็บไป
ขณะเดียวกัน ริชาร์ลิสัน กองหน้าชาวบราซิล จะเป็นอาวุธสำคัญสำหรับ เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ แลมพาร์ด เช่นเดียวกัน และรวมถึง เดมาราย เกรย์ ปีกชาวอังกฤษ ที่จะสร้างเกมรุกให้กับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยุคใหม่
แลมพาร์ด ยังมีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดี และเป็นลูกหม้อของสโมสรอย่าง แอนโธนี่ กอร์ดอน วัย 20 ปี ให้เลือกใช้งานอีกด้วย ซึ่งนักเตะทั้งหมดที่กล่าวมาอายุยังน้อย และสามารถพัฒนาตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของ เอฟเวอร์ตัน ได้ในเร็วๆนี้
นายใหญ่คนใหม่ เอฟเวอร์ตัน กล่าวหลังเกมมีชัยเหนือ เบรนท์ฟอร์ด ว่า “มันเป็นความพยายามร่วมกันของผู้เล่น และแฟน ๆ เมื่อคุณอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความมั่นใจจะลดลง ผู้เล่นมีความกล้า พวกเขาต้องการเล่นฟุตบอล
“ผมรู้สึกมั่นใจก่อนเกม ผมอยากจะบอกคุณว่า ผมเห็นนักเตะทำงานหนัก และฝึกซ้อมในระดับที่หนักอย่างแท้จริง และสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ คุณจะเห็นได้ในเกม แฟนบอลต่างก็สนใจวิธีการเล่นของเขา เราสงบสติอารมณ์ ควบคุมเกม และผ่านบอลได้อย่างยอดเยี่ยม”
แม้จะเก็บชัยชนะได้ในเกมแรก แต่ แลมพาร์ด ก็ต้องโฟกัสไปที่การพา เอฟเวอร์ตัน หนีโซนตกชั้นไปให้เร็วที่สุดหลังจากที่พลพรรค “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยังคงรั้งอันดับ 16 ในตารางคะแนน โดยมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 4 แต้มเท่านั้น
เอฟเวอร์ตัน มีเกมสำคัญรออยู่ในการเผชิญหน้ากับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่กำลังหนีตกชั้น และหากเก็บชัยชนะได้นั้น มันจะเป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับ แลมพาร์ด อยู่มากทีเดียว