สถานีต่อไปของ เออร์ลิง ฮาแลนด์

เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้า อนาคตไกลทีมชาตินอร์เวย์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรดังแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ให้สัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า เขารู้สึกกดดันหลังจาก “เสือเหลือง” บอกให้เจ้าตัวติดสินใจเกี่ยวกับอนาคตในเร็วๆนี้

ศูนย์หน้าวัย 21 ปี เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในวงการฟุตบอล หลังจากที่ระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการทำประตูได้ 79 ลูก จาก 80 เกมรวมทุกรายการให้กับ ดอร์ทมุนด์ หลังย้ายมาจาก เร้ดบลู ซัลซ์บวร์ก ในปี 2019 ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ค่าฉีกสัญญามูลค่า 75 ล้านยูโร ของ ฮาแลนด์ นั้น จะมีผลใช้บังคับในปี 2022 และบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ต่างๆ กำลังเริ่มเจรจากับ มิโน ไรโอล่า เอเย่นต์ของเขา และ อัลฟ์-อิงเก้ คุณพ่อของหัวหอก ดอร์ทมุนด์ แล้วด้วย และนี่คือปลายทางที่เป็นไปได้ของสุดยอดวันเดอร์คิดรายนี้

1. เรอัล มาดริด (สนใจ เออร์ลิง ฮาแลนด์)

มาดริด ให้ความสนใจ ฮาแลนด์ มานานแล้ว และมีอำนาจทางการเงินมากพอที่จะคว้าตัวเขามาร่วมทีม และการปล่อยนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมอย่าง อิสโก้ และ แกเร็ธ เบล รวมถึง เอเด็น อาซาร์ ออกไปในซัมเมอร์นี้ก็ยิ่งทำให้ “ราชันชุดขาว” มีเงินทุนเสริมทัพเพิ่มอีก

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายอันดับหนึ่งที่ มาดริด อยากได้ตัวก็คือ คิเลียน เอ็มบั๊บเป้ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีกเอิง ที่พวกเขายินดีจ่ายเงินมหาศาลถึง 200 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวมาจาก เปแอสเช

สิ่งสำคัญที่สุดของ มาดริด คือ หากพวกเขาทำการเซ็นสัญญากับ เอ็มบั๊บเป้ สำเร็จก็อาจจะไม่คว้าตัว ฮาแลนด์ มาร่วมทีม แต่มันก็มีความเป็นไปได้ว่า “ราชันชุดขาว” จะคว้าตัวทั้ง 2 คน เพื่อสร้างทีมสายเลือดใหม่ไล่ล่าความสำเร็จในอนาคต

2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้

การย้ายมายัง เอติฮัด สเตเดี้ยม จะทำให้ ฮาแลนด์ ได้ทำงานร่วมกับยอดกุนซือแห่งยุคอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ชาวสเปนของ แมนฯ ซิตี้ และนั่นก็จะทำให้เขาพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกได้อย่างง่ายดาย

ฮาแลนด์ ได้พิสูจน์ตัวเองในศึกบุนเดสลีกา เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ตอนนี้เขาจำเป็นต้องก้าวไปอีกระดับด้วยการย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีก แม้ว่าความแข็งแกร่งของสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล และ เชลซี จะทำให้ “เรือสีฟ้า” ไม่สามารถรับประกันถ้วยรางวัลได้ทุกปีก็ตาม  

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ แมนฯ ซิตี้ เล่นโดยไม่ใช้กองหน้าตัวเป้าเลยหลัง เซอร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอกอาร์เจนไตน์ อำลาทีมไป และพวกเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในระบบ False9 ซึ่งหมายความว่า กวาร์ดิโอล่า อาจไม่ต้องการดาวยิงคนใหม่ก็เป็นได้

กวาร์ดิโอล่า ต้องการให้กองหน้าของเขามีหลายมิติไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนที่ การผ่านบอล การจบสกอร์ และการเชื่อมเกมกับคนอื่นๆ ดังนั้น การปรับตัวจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับ ฮาแลนด์ อยู่มากทีเดียว  

3. บาร์เซโลน่า

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บาร์เซโลน่า ต้องการนักเตะอย่าง ฮาแลนด์ มากเพียงใด และ โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร “เจ้าบุญทุ่ม” ก็เคยพบกับเอเย่นต์ และคุณพ่อของดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ไปแล้วเมือปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

หลังจาก ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพชาวอาร์เจนไตน์อำลาทีมไป บาร์เซโลน่า ก็ยังไม่สามารถหาตัวแทนได้เหมาะสมเลย ซึ่ง ฮาแลนด์ มีศักยภาพมายกที่จะเข้ามายกระดับเกมรุกของ บาร์ซ่า ได้ และมันจะทำให้ ลาปอร์ต้า ได้ใจสาวก “เจ้าบุญทุ่ม” ด้วย

อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า เพิ่งจ่ายเงิน 55 ล้านยูโร คว้าตัว เฟร์ราน ตอร์เรส หัวหอกชาวสเปนมาจาก แมนฯ ซิตี้ และพวกเขายังมีหนี้นิมากมาย รวมถึงแข้งดังที่ทุ่มเงินคว้าตัวมาในช่วงหลังอย่าง ฟิลิเป้ คูตินโญ่ และ อองตวน กรีซมันน์ ก็ล้มเหลว จึงทำให้ ฮาแลนด์ ต้องพิจารณาอย่างหนักในการย้ายมายัง คัมป์ นู

4. บาเยิร์น มิวนิค

การย้ายมายัง บาเยิร์น จำให้ ฮาแลนด์ น่าจะมีโอกาสคว้าแชมป์บุนเดสลีกาแทบทุกปี และมีลุ้นคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การด้ำงานร่วมกับ จูเลียน นาเกิลส์มันน์ กุนซือรุ่นใหม่จะทำให้พวกเขาเข้าใจกันเป็นอย่างดี

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ของ บาเยิร์น อายุ 33 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ และสามารถเล่นในระดับสูงอีก 1-2 ปีสบายๆ ซึ่งอาจทำให้ ฮาแลนด์ ต้องรอคอยโอกาสของเขาไปอีกสักระยะกับการการันตีตำแหน่งตัวจริงในทัพ “เสือใต้”

ขณะเดียวกัน ความซื่อสัตย์ที่ ฮาแลนด์ มีต่อ ดอร์ทมุนด์ ก็อาจทำให้เขาปฏิเสธข้อเสนอจาก บาเยิร์น ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง แต่ก็ไม่ใช่ว่า การย้ายสังกัดจะเกิดขึ้นไม่ได้หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีนักเตะหลายรายที่ย้ายจาก “เสือเหลือง” ไปยัง “เสือใต้”

5. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (สนใจ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้า )

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการเซ็นสัญญากับ ฮาแลนด์ เมื่อตอนที่เขาย้ายออกจาก ซัลซ์บวร์ก ก่อนที่เจ้าตัวจะเลือก ดอร์ทมุนด์ ซึ่งทำให้ “ปีศาจแดง” ต้องผิดหวัง และบางที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อาจจะหวนกลับมาหาเป้าหมายของพวกเขาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ครองโลกลูกหนังเหมือนสมัยก่อนแล้ว และพวกเขาก็ไม่สามารถการันตีตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ทุกๆ ซึ่งทำให้ ฮาแลนด์ ต้องคิดหนักมากทีเดียวสำหรับการย้ายมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด