เอแดร์สัน ยอดมือกาวแห่งทัพ “เรือใบ”

เอแดร์สัน นายทวารทีมชาติบราซิล ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ตั้งเป้าหมายที่จะเก็บคลีนชีตได้ให้ครบ 100 ครั้งกับพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” หลังอยู่เฝ้าเสากับทีมมานานกว่า 4 ปีแล้ว

มือกาววัย 28 ปี เป็นผู้รักษาประตูสมัยใหม่ที่นอกจากปฏิกิริยาการเซฟที่สุดยอดแล้ว เอแดร์สัน ยังใช้เท้าได้อย่างยอดเยี่ยม และบางครั้งเขาก็เป็นส่วนเริ่มในการทำสกอร์ของ แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน

เอแดร์สัน นายทวารทีมชาติบราซิล และความท้าทาย

เอแดร์สัน เริ่มเล่าว่า “ทุกวันนี้ การมีผู้รักษาประตูที่มีการใข้เท้าที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในทีมใดๆ ก็ตามที่ชอบสร้างการเล่นจากด้านหลัง ผมไม่คิดว่ ตัวเองมีอิทธิพลมากนัก อันที่จริงผมเคยได้รับอิทธิพลจากผู้รักษาประตูคนอื่นๆ ที่ใช้เท้าได้ดีมาก่อน แต่ฟุตบอลมีวิวัฒนาการ และผู้เล่นก็ต้องพัฒนาไปพร้อมกับเกมเช่นกัน”

“ผมแค่เล่นตามสไตล์ของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ มันเป็นเรื่องของสมาธิ ถ้าผู้รักษาประตูจ่ายบอลพลาด มันไม่มีใครสามารถช่วยคุณได้เลย ผู้รักษาประตูคือกุญแจสำคัญในทีมของเรา เพราะเราไม่สามารถทำผิดพลาดใดๆ ในการสร้างเกมขึ้นมา แต่เพื่อนร่วมทีมทำให้ผมมีตัวเลือกมากมายสำหรับการผ่านบอล ดังนั้น ผมรู้สึกผ่อนคลายมาก”

ขณะเดียวกัน สถิติของ เอแดร์สัน ในการเช้าเท้ายอดเยี่ยมอย่างมาก โดยอดีตโกล์ เบนฟิก้า มีอัตราความสำเร็จ 90 เปอร์เซ็นต์สำหรับการจ่ายบอลให้กับผู้เล่นฝ่ายเดียวกันในระยะ 3 เมตรจากการลงเฝ้าเสาในฤดูกาลนี้

นอกจากนี้ ไม่มีผู้รักษาประตูคนใดในพรีเมียร์ลีกที่ใกล้เคียงกับอัตราความสำเร็จของ เอแดร์สัน ซึ่งลำดับต่อมาคือ อูโก้ ยอริส นายด่านชาวฝรั่งเศสของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ที่ตามมาด้วยจำนวนตัวเลข 75%

เอแดร์สัน กล่าวต่อว่า “สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้รักษาประตูคือ สมาธิ และการตัดสินใจที่ดีในจังหวะการเล่น ในเกมส่วนใหญ่ เราครองบอล และเราเสียอาจจะโอกาสครั้งเดียวให้ทีมตรงข้าม ดังนั้น สมาธิจึงเป็นกุญแจสำคัญ”

“คุณต้องมีสมาธิตลอด 90 นาทีเพื่อให้มีฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด ในเกมที่ผ่านๆมา ผมมีความสุขกับการเซฟ และช่วยทีมในช่วงเวลาสำคัญ มันเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับบุคลิกของผม ความสงบ และ มีสมาธิ ผมรู้ดีว่าถ้าผมเสียสมาธิในช่วงเวลาใด ๆ ของเกม มันอาจจะจบลงที่เราเสียประตูให้กับฝ่ายตรงข้าม”

“เราไม่สามารถโจมตีได้ตลอดเวลาหรอก ดังนั้น เราจำเป็นต้องรู้วิธีป้องกันในบางช่วงของเกมด้วย เราทุกคนรู้ดีว่าตัวเองและเพื่อนร่วมทีมมีความสำคัญแค่ไหนที่จะต้องจดจ่อกับเกมเสมอ”

ความท้าทายของ เอแดร์สัน และ แมนฯ ซิตี้ ในปีนี้ก็คือ รักษาความมุ่งมั่นในการคว้าแชมป์ต่อไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บแต้มให้ได้ 100 คะแนนเพื่อสร้างสถิติ นอกจากนี้ มือกาวแซมบ้าก็ต้องการเก็บคลีนชีตให้ได้ 100 เกม โดยเหลืออีกเพียงนัดเดียวเท่านั้นเขาก็จะทำสำเร็จ

เอแดร์สัน ซึ่งลงเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้ว 210 เกม กล่าวว่า “มันเป็นความสำเร็จที่สำคัญสำหรับผม เพราะมันหมายความว่าผมเก็บคลีนชีตมาเกือบครึ่งให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เครดิตทั้งหมดควรไปที่พวกเราทั้งทีม”

“กองหน้า กองกลาง และกองหลัง พวกเขาทั้งหมดเพรสซิ่ง และตั้งรับได้อย่างยอดเยี่ยม คลีนชีตเกี่ยวข้องกับทั้งทีม ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว”

นอกจากนี้ อดีตโกล์ เบนฟิก้า ยังกล่าวถึง รูเบน ดิอาส กองหลังทีมชาติโปรตุเกสที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ แข็งแกร่งยิ่งขึ้นว่า “ผมรู้เกี่ยวกับคุณภาพ และความเป็นผู้นำของเขาในสนามแล้ว นั่นมาจากเวลาที่ผมเคยเล่นกับเขาในทีมเยาวชนของ เบนฟิก้า”

“ดังนั้นเมื่อเขาย้ายเข้ามาร่วมทีมกับเรา ผมรู้ว่าเขามีทุกอย่างที่จะประสบความสำเร็จที่นี่ เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม และเขาก็เป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม ผมหวังว่าเขาจะสามารถโชว์ฟอร์มแบบนี้ต่อไปได้”  

เอแดร์สัน นายทวารทีมชาติบราซิล

ความสำเร็จของ เอแดร์สัน

ตลอดระยะเวลา 4 ปี กับ แมนฯ ซิตี้ นั้น โกล์ทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 3 สมัย และแชมป์ลีก คัพ 4 สมัย ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นความสำเร็จอย่างมากมายเลยทีเดียว นอกจากนี้ เขาก็เพิ่งจรดปากกาต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 5 ปีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

“แน่นอนว่าผมเคยเล่นกับผู้เล่นที่เพิ่งย้ายออกไปอย่าง ดาบิด ซิลบา, เซอร์คิโอ อเกวโร่ และ แวงซองต์ กอมปานี มันเป็นแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ในการสานต่อความสำเร็จของพวกเขา และผมจะทำงานหนักต่อไปเพื่อวันหนึ่งผมจะได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา”

“ถ้าคุณเห็นทีมของเราตอนนี้ มันเป็นกลุ่มนักเตะที่อายุน้อย และมีความสามารถมาก เรามีทุกอย่างเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ที่สวยงามที่นี่ เราต้องดำเนินต่อไปในแนวทางเดียวกันกับที่เราทำ และส่งมอบความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป”

“เห็นได้ชัดว่า เป๊ป เป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของทีมสำหรับแนวทางการเล่นของเขา เมื่อผมมาถึง กระบวนการดำเนินไปเป็นเวลา 1 ปีแล้ว และนั่นเป็นสิ่งสำคัญเพราะทีมรู้วิธีที่เขาต้องการจะให้เล่นอยู่แล้ว”

“การรักษาผู้เล่นกลุ่มเดิมไว้เป็นเวลา 4 ปีก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะไม่ว่าใครจะลงมาเล่นสไตล์ของเรายังคงเหมือนเดิม ทุกคนมีความสามารถ ทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรในสนาม สิ่งสำคัญคือต้องรักษาคีย์แมนไว้เพื่อความสำเร็จในระยะยาว” นายด่านวัย 28 ปี กล่าวปิดท้าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *