แม็ตตี้ แคช ฟูลแบ็คของ แอสตัน วิลล่า สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ได้เปิดตัวกับทีมชาติโปแลนด์ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในบทบาทแบ็คขวา ซึ่งเป็นประเทศเขาไม่ได้เกิดและเป็นตำแหน่งที่เขาเคยไม่ต้องการเล่น
เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของ แคช ค่อนข้างพลิกผันพอสมควร โดยเจ้าตัวเริ่มเล่นฟุตบอลกับ วีคอม วันเดอเรอร์ส ก่อนจะย้ายไปยัง นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และก้าวขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก กับ วิลล่า เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
แม็ตตี้ แคช กับบททดสอบสำคัญ
ในวัย 16 ปี แคช เกือบจะล้มเลิกการเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้วหลังโดน วีคอม ปล่อยออกจากสโมสร โดยพ่อของเขาเล่าว่า “ผมกับภรรยาส่ง แม็ตตี้ ไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เราต้องการให้เขาได้สัมผัสชีวิตการทำงานจริง ๆ และมันก็วิเศษมากสำหรับเขา มันทำให้เขารู้สึกถึงชีวิตที่ปราศจากฟุตบอล”
“ผมจำได้ว่านั่งลงกับเขาแล้วพูดว่า ดูสิ ถ้าลูกต้องการไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้า หรือหางานที่อื่น พ่อและแม่ของก็จะสนับสนุนลูก แต่พ่อคิดว่า ลูกมีพรสวรรค์มากเมื่ออยุ่ในสนามฟุตบอล และลูกควรจะทำแบบนั้นต่อไป”
“จากนั้นเขารู้ทันทีเลยว่า เขาต้องทำอะไร งานนั้นทำให้เขามีแรงจูงใจที่จะพูดว่า ผมไม่ต้องการที่จะทำเช่นนี้ ผมต้องการเป็นนักฟุตบอล”
แคช เกิดที่อังกฤษแต่เขามีสิทธิ์เล่นให้กับโปแลนด์ทางสายเลือดของแม่ และกองหลังวัย 24 ปี ก็ถูกเรียกตัวไปรับใช้โปแลนด์ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งมันทำให้เจ้าตัวได้ร่วมงานกับนักดังอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้า บาเยิร์น มิวนิค และ วอยเซียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูของ ยูเวนตุส รวมถึง มาเตอุสซ์ คลิช มิดฟิลด์ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด
คุณพ่อของ แคช กล่าวต่อว่า “ผมบอกความจริงกับเขาเสมอไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เมื่อตอนที่เขายังเด็ก ถ้าผมคิดว่า เขาไม่ได้ทุ่มเทความพยายามมากพอกับเกมฟุตบอลของพวกเขาในสุดสัปดาห์นั้น ผมจะพาพวกเขากลับบ้านทันที”
“ผมนำนาฬิกาจับเวลาของแล้วให้เขาวนรอบสนามใกล้ๆบ้านเรา ผมเคยพูดกับเขาว่า ทุกครั้งที่พ่อและแม่ต้องเสียสละวันหยุดสุดสัปดาห์ของเรา และลูกไม่ได้ทุ่มเท นี่คือสิ่งที่ลูกจะต้องรับรู้เอาไว้ ผมผมไม่ใช่พ่อคนหนึ่งที่จะเป็นคนดีนัก ถ้าเขาหรือพี่น้องคนอื่นๆต้องโดนผมเตะจากด้านหลังเพื่อกระตุ้น ผมก็ต้องทำ”
ฟูลแบ็คยุคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ
หลังโดน วีคอม ปล่อยตัว แคช ก็ไปเข้าอคาเดมี่ของ FAB ใน และก็ถูก ฟอเรสต์ คว้าตัวมาร่วมทีม โดย แกรี่ บราซิล ผู้จัดการทีมเยาวชนของ “เจ้าป่า” เล่าว่า “เรานำเขามาพิจารณาหลังจบเกมกระชับมิตรที่เข้าเผชิญหน้ากับเรา”
“ความกระตือรือร้น และความปรารถนาของเขาที่จะวิ่งไปรอบๆ สนาม ดึงเราเข้ามาให้สนใจเขาจริงๆ โดยตอนแรกเขาเข้ามาเล่นเป็นกองกลาง แต่หลังจากไม่กี่นาทีผมคิดว่า ว้าว เรามีนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมมากๆในทีม”
“เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นเหล่านั้นที่ผมคิดว่า เราสามารถเดินทางไปด้วยกัน และบรรลุบางสิ่งบางอย่างได้อย่างแน่นอน”
หลังย้ายมาเล่นกับ ฟอเรสต์ ในวัย 17 ปี แคช ก็โดนปล่อยให้ ดาเก้นแฮม แอนด์ เรดบริดจ์ ในลีกทู ยืมตัวไปใช้งานในช่วงท้ายของฤดูกาล 2016-17 โดย บราซิล เล่าต่อว่า “เขากลับมาเล่นได้ดีมากขึ้นสำหรับหลังได้รับประสบการณ์”
“มันเป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเกมแบบจริงจัง และความต้องการของฟุตบอล และเขากลับมาโดยรู้ว่าเขาสามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมนั้นได้”
แคช กลับมาที่ ซิตี้ กราวด์ และลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่กับ ฟอเรสต์ ในฤดูกาลถัดมาก่อนจะค่อยๆเข้ามายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมของ ซาบรี ลามูชี เทรนเนอร์ “เจ้าป่า” ซึ่งหลังจากนักเตะฟูลแบ็คพากันได้รับบาดเจ็บก็ทำให้เขาโดนถอยไปเล่นในตำแหน่งดังกล่าว
แม็ตตี้ แคช ย้ายสู่ วิลล่า ก่อนจะติดทีมชาติโปแลนด์
แคช ใช้เวลานานถึง 5 ฤดูกาลที่ ฟอเรสต์ และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลในปี 2019-20 ด้วย ก่อนที่เขาจะเซ็นสัญญา 5 ปี กับ วิลล่า เดือนกันยายน 2020 หลังจากย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์
คุณพ่อของ แคช กล่าวว่า “เราพูดถึงกรณีของเขาที่อาจเล่นให้โปแลนด์เมื่อเขาเซ็นสัญญากับ วิลล่า เราพูดถึงความก้าวหน้าอยู่เสมอ เราคุยกันเสมอว่าขั้นตอนต่อไปคืออะไร แม้กระทั่งตอนนี้ โดยย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มันคือประสบการณ์ฟุตบอลในทีมชุดใหญ่ จากนั้น มันคือการสร้างตัวเองในทีมชุดใหญ่ที่ ฟอเรสต์ ต่อมาคือพรีเมียร์ลีก และตอนนี้เป็นทีมชาติ ผมคิดว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนจริงๆ”
บราซิล กล่าวว่า “เขาเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมมากๆ เขาเป็นเด็กที่วิเศษ เขามีความคิดที่ดีกับคนรอบข้าง เสมอ เขาจุดไฟในห้องแต่งตัวเมื่อเขาเดินเข้าไป และมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต เขาจะดีขึ้นกว่านี้อีก เพราะเขามีลักษณะนิสัยที่มุ่งมั่น และทำงานหนัก”
คุณพ่อของ แคช ปิดท้ายว่า “เท้าของเขามั่นคงบนพื้น ไม่นานมานี้เขาอาจจะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลด้วยซ้ำ แต่มันแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถบรรลุอะไรได้หากตั้งใจมากพอ ตอนนี้เขายังคงกลับไปที่ห้างสรรพสินค้าที่เขาเคยไปทำงาน และเขาพูดกับผมเสมอว่า พ่อจำได้ไหมว่าเมื่อก่อนผมเคยทำงานที่นี่”
“นั่นคือเขากำลังไตร่ตรองว่าเขามาไกลแค่ไหน เขามักจะพูดว่าการทำงานที่นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำ เพราะมันช่วยให้เขาไปถึงที่ที่เขาต้องการได้”