ทางออกของ ซาล่าห์ กับ “หงส์แดง”

 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ตัวรุกทีมชาติอิยิปต์ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำผลงานสุดยอดด้วยการซัดให้พลพรรค “หงส์แดง” ไปแล้วรวมทุกรายการ 28 ประตู จาก 35 เกม แต่สิ่งที่หลายๆคนสนใจกลับไม่ใช่การทำสกอร์ แต่มันเป็นอนาคตของเขาในถิ่น แอนฟิลด์ 

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันกำลังรั้งอันดับ 2 ของตารางคะแนน ซึ่งในระหว่างขับเคี่ยวลุ้นแชมป์อย่างเข้มข้นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น ข่าวเรื่องการต่อสัญญาของ ซาล่าห์ กลับทวีความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง

ดาวเตะวัย 29 ปี ซึ่งย้ายจาก โรม่า ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ด้วนค่าตัวราว 37 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2017 นั้น เหลือสัญญากับ “หงส์แดง” ถึงปี 2023 และล่าสุด คล็อปป์ ก็ระบุว่า ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับ ซาล่าห์ หลังจากสโมสรยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว

อนาคตของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ ลิเวอร์พูล จะเป็นอย่างไร

มีรายงานข่าวระบุว่า การเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ระหว่าง ซาล่าห์ กับ ลิเวอร์พูล ได้หยุดลงไปแล้ว และข้อตกลงใหม่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ “หงส์แดง” ต้องปรับปรังรายละเอียดต่างๆในสัญญาฉบับใหม่ แต่เวลานี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆทั้งสิ้น

นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โรม่า มาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซาล่าห์ กลายเป็นคีย์แมนในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ทันนี โดยช่วยให้ทีมของ คล็อปป์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ลีก, ลีกคัพ, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ไปครองได้สำเร็จ

ขณะเดียวกัน คล็อปป์ ยอมรับว่า ลิเวอร์พูล ได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อโน้มน้าวให้ อดีตปีก โรม่า ค้าแข้งอยู่กับสโมสรต่อไป ซึ่งเขาก็ระบุต่อด้วยว่า สถานการณ์ต่างๆยังปกติดี และก็ไม่รีบร้อนแม้จะยังไม่มีความคืบหน้าก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หลังจากการแสดงความคิดเห็นของ คล็อปป์ เกี่ยวกับสัญญาของ ซาล่าห์ นั้น รามี อับบาส อิสซา เอเยนต์ส่วนตัวของดาวยิงชาวอิยิปต์ก็โพสต์ทวิตเตอร์เป็นอีโมจิหัวเราะหลายตัว โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยระบุว่า อนาคตของนักเตะในความดูแลอยู่ในมือของ ลิเวอร์พูล

แน่นอนว่า การสูญเสียนักเคะที่เคยคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีก 2 สมัยจะเป็นผลเสียที่ยิ่งใหญ่สำหรับ ลิเวอร์พูล และเวลานี้ ซาล่าห์ ก็บันทึกสถิติแล้วว่า เป็นแข้ง “หงส์แดง” ที่ยิงเกิน 20 ประตูติดต่อกันในลีกเกิน 4 ฤดูกาล

การมาถึงของ หลุยส์ ดิอาซ กองหน้าชาวโคลอมเบียจาก เอฟซี ปอร์โต้ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทำไปแล้ว 2 ประตูให้กับ ลิเวอร์พูล นั้น ได้เพิ่มทางเลือกในแนวรุกให้กับ คล็อปป์ เช่นกัน โดยดาวเตะวัย 25 ปี ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเล่นร่วมกับ ดิโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน่ ได้เป็นอย่างดี

ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความคิดเห็นเรื่องอนาคตของ ซาล่าห์ ว่า “ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับ โม ซาลาห์ ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ เขาอยากเป็นไอดอล และตำนานที่ ลิเวอร์พูล ตลอดไป และจะอยู่ทเพราะเงิน เราจะได้คำตอบในตอนท้าย”

ขณะที่ ปีเตอร์ เคร้าช์ อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “จากมุมมองของ ซาล่าห์ เขาสามารถพูดได้ว่า ผมควรจะเป็นผู้เล่นที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก และไม่มีใครเก่งไปกว่าเขาในพรีเมียร์ลีกแล้วในเวลานี้”

“หาก ลิเวอร์พูล ถูกเอเย่นต์เรียกร้องข้อเสนอที่สูงเกินไป พวกเขาจะไม่ทำลายโครงสร้างของสโมสรด้วยการจ่ายเงินก้อนโตสำหรับผู้เล่นคนเดียวแน่นอน แต่หาก ลิเวอร์พูล ได้รับข้อเสนอราคาที่เหมาะสม พวกเขาอาจจะต้องดูมันอย่างละเอียด”

ขณะเดียวกัน แอนดี้ รีด อดีตกองกลางทีมชาติไอร์แลนด์ กล่าวว่า “สโมสรต่างๆ ทั่วโลกพร้อมจะคว้าตัว ซาล่ห์ ไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล จะต้องทำลายโคร้งสร้างทีมเพื่อเขา เพราะหากพวกเขาไม่ก้าวข้ามขอบเขตเหล่านั้น พวกเขาก็จะไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งทีมอื่นๆได้ แต่พวกเขาต้องระวังไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นไม่พอใจ”

ปลายทางต่อไป

ในวงการฟุตบอลยุโรปมีสโมสรเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถจ่ายค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลได้หลังจากการระบาดของโคโรนาไวรัส แต่ในขณะที่เดียว บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน ตกเป็นข่าวลืออย่างหนักว่า พรัอมจะคว้าตัว ซาล่าห์ ไปเล่นในถิ่น คัมป์ นู

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีก เอิง เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่สามารถจ่ายค่าจ้างให้ ซาล่าห์ ได้อย่างไม่มีปัญหา และจากการที่ คิเลียน เอ็มบั๊บเป้ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสอนาคตยังไม่แน่นอนนั้น บางที เปแอสเช ก็ต้องมองหาทางเลือกอื่นๆเอาไว้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า ซาล่าห์ ยินดีที่จะเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีกต่อไป แต่ทีมใหญ่อย่าง เชลซี กำลังมีปัญหาหลังจาก โรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสรโดนแบน ซึ่งทำให้เหลือเพียง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้น ที่เป็นทางเลือกของปีกกวีย 29 ปี 

อย่างไรก็ตาม ใตอนนี้สิ่งที่ ลิเวอร์พูล และ ซาล่าห์ ควรทำที่สุดก็คือ โฟกัสไปที่การลุ้นแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ และอนาคตของดาวเตะชาวอิยิปต์จะเป็นอย่างไรนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายคงต้องมาเคลียร์กันให้ชัดเจนอีกทีในช่วงซัมเมอร์