ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค คนที่ถูกมองข้าม

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค กองกลางชาวฮอลแลนด์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงเล่นให้กับพลพรรค “ปีศาจแดง” ครบ 50 เกมแล้ว ซึ่งมันดูเป็นตัวเลขที่ดีหลังจากที่เจ้าตัวย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในบ้านเกิดมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2020 ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ในจำนวน 50 เกมที่ลงสนามนั้น ดาวเตะวัย 24 ปี จะลงมาในฐานะตัวสำรองเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเกมพรีเมียร์ลีกปีนี้ ฟาน เดอ เบค มีโอกาสลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเพียง 8 เกม นับเป็นจำนวนแค่ 68 นาที และ 3 จาก 5 เกมหลังสุดเขาก็ถูกส่งมาเป็นตัวสำรอง

สถานการณืที่ยากลำบากของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค

เวลา 18 เดือนของอดีตเด็กปั้น อาแจ็กซ์ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มันเป็นเรื่องราวแห่งความโกลาหลอย่างหนัก และตอนนี้แฟนบอล “ปีศาจแดง” ก็เริ่มตะโกนชื่อเขาระหว่างเกม เนื่องจากเริ่มเห็นใจที่เจ้าตัวไม่ได้รับโอกาสลงสนาม

ขณะเดียวกัน จำนวนการเล่น 50 เกมให้กับสโมสรอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด มันอาจจะดูเป็นความสำเร็จ และเป็นความฝันของผู้เล่นหลายคน แต่เมื่อคุณแยกย่อยตัวเลขนั้น ฟาน เดอ เบค ได้ลงไปเพียง 1,836 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่า น้อยมากๆ

ก่อนหน้านี้ ฟาน เดอ เบค เคยเป็นผู้เล่นดาวเด่นของ อาแจ็กซ์ ในชุดที่ทีมเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2019 ซึ่งเขาได้รับความสนใจจาก เรอัล มาดริด ด้วยเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ย้ายมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด

ในที่สุด 12 เดือนต่อมานับตั้งแต่เซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ก็ถูกมองข้ามมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่ภายใต้การคุมทัพของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ โค้ชชาวนอร์เวย์ และตอนนี้โดย ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมชั่วคราว ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกอย่างมาก

แหล่งข่าวระบุว่า เอฟเวอร์ตัน กระตือรือร้นที่จะเซ็นสัญญากับ อดีตมิดฟิลด์ อาแจ็กซ์ รายนี้เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โดย มาร์เซล แบรนด์ส ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลที่ถิ่น กูดิสัน พาร์ก ได้จัดเตรียมข้อตกลงไว้หมดแล้ว

ขณะที่ ฟาน เดอ เบค และเอเย่นต์ของเขาก็ได้รับการบอกกล่าวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วว่า ให้สามารถย้ายทีมได้ แต่ โซลชาร์ กลับเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย และยืนยันว่า ต้องการเก็บเขาไว้ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อไป

ฟาน เดอ เบค คิดว่า เขาจะได้รับโอกาสลงสนามกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้กูรูฟุตบอลหลายคนคิดว่า เขาอาจอยู่ระหว่างปรับตัวกับการเล่นฟุตบอลในอังกฤษ และต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในสภาพร่างกายอีกเล็กน้อย

ไม่ใช่ตัวเลือกแรกในการเสริมทัพ และถูกมองข้าม

ฟาน เดอ เบค สามารถเติบโตได้ในพรีเมียร์ลีกได้ เขารับคำแนะนำจากหลายๆคนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ โซลชา ยังคงมองข้ามเขา และใช้เขาเป็นตัวสำรองในพรีเมียร์ลีกเพียง 3 เกมก่อนที่ตัวเองจะโดนไล่ออกเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

สถิติการเล่นของ ห้องเครื่องชาวฮอลแลนด์แสดงให้เห็นว่า เขามีโอกาสจำกัดที่จะสร้างความประทับใจให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และแหล่งข่าวบอกด้วยว่า เขาไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ โซลชา อยากได้ตัวมาเสริมทัพ ซึ่งทำให้เจ้าตัวถูกเมินมาตลอด

ในช่วงฤดูร้อนปี 2020 โซลชา ต้องการให้บอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าตัว จาดอน ซานโช่ หรือ จู๊ด เบลลิ่งแฮม 2 กองกลางดางรุ่งชาวอังกฤษคนใดคนหนึ่งเข้ามาร่วมทีม แต่การเจรจาล้มเหลวจึงทำให้ “ปีศาจแดง” หันไปคว้าตัว ฟาน เดอ เบค ในที่สุด

ทีมงานแมวมองของ แมนฯ ยูไนเต็ด มองว่า ฟาน เดอ เบค อายุน้อย และยังสามารถพัฒนาได้อีกจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหลังจากที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ อาแจ็กซ์ แต่กลายเป็นว่า เขากลายมาเป็นส่วนเกินในแดนกลางที่อัดแน่นของ “ปีศาจแดง”

แหล่งข่าวยังระบุด้วยฟาน เดอ เบค ช้าเกินไปที่จะเป็นผู้เล่นพรีเมียร์ลีกที่มีประสิทธิภาพ และแม้ว่าเขาจะพยายามทำให้ร่างกายของตัวเองให้แข็งแรงขึ้น แต่ก็ยังขาดความแข็งแกร่งที่จำเป็นในระดับสูงสุดในการเล่นฟุตบอลที่รวดเร็ว และเต็มไปด้วยแรงปะทะ

ความมุ่งมั่น และอัตราการทำงานหนักของ ฟาน เดอ เบค ช่วยให้เขาได้รับความเคารพจากแฟน ๆ และเพื่อนร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวกล่าวว่า เขารู้ตัวเองดีว่า ไม่ค่อยได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองแม้จะมีความฟิตสมบูรณ์ และความพร้อมแค่ไหรก็ตาม

การได้ลงสนามในระยะเวลาสั้นๆจากม้านั่งสำรองเพียงไม่กี่นาทีนั้น มันไม่สามารถช่วยให้กองกลางชาวดัตช์แสดงความสามารถของรตัวเองได้อย่างเต็มที่เลย และมันก็ไม่ใช่ประตูนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จกับสโมสรอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลย

ฟาน เดอ เบค เป็นผู้เล่นที่ต้องการโอกาส และผู้จัดการทีมที่เชื่อมั่นในตัวเขา แต่มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด และยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาถูกเซ็นสัญญาเข้ามาโดยที่กุนซือไม่ต้องการตัว ซึ่งทุกอย่างมันก็ต้องลงเอยด้วยการแยกทางกันในท้ายที่สุด