สี่งที่ทำให้ นิวคาสเซิ่ล คืนฟอร์มเก่ง

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมมหาเศรษฐี แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว กำลังกลับคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง และตอนนี้พลพรรค “สาลิกาดง” ไม่พ่ายแพ้ใครในลีกมาเป็นเกมที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งทำให้พวกเขากระโดดหนีโซนตกชั้นขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว

หลังจากใช้เวลาเกือบทั้งฤดูกาลในโซนตกชั้น ตอนนี้ นิวคาสเซิ่ล คลายความกดดันขึ้นมาพอสมควรหลังมีแต้มห่างจากโซนอันตรายแล้ว และตลอด 7 เกมที่ผ่านมา “สาลิกาดง” เดินหน้าเก็บไปได้เยอะมาก ซึ่งตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาพวกเขามีความเปลี่ยนแปลงไปมากมาย

เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมมหาเศรษฐี คืออะไร?

เราต้องเริ่มต้นด้วยความชัดเจนว่า ทั้งหมดเกี่ยวกับเงิน นิวคาสเซิ่ล กลายเป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในชั่วข้ามคืนในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลังจากการเข้าซื้อกิจการโดยกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย แต่พวกเขาต้องรอมากกว่า 2 เดือนกว่าที่ตลาดนักเตะในเดือนมกราคมจะเปิดขึ้น และพ่ายแพ้ไปถึง 3 เกมติดต่อกันในเดือนธันวาคม

นิวคาสเซิ่ล เสียเวลาไปเพียงเล็กน้อยในการทำธุรกิจคว้านักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม โดยเริ่มจากเซ็นสัญญากับ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวามากประสบการณ์ชาวอังกฤษมาจาก แอตเลติโก มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์เมื่อวันที่ 7 มกราคม และจากนั้นก็คว้า คริส วู้ด กองหน้าร่างยักษ์มาจาก เบิร์นลีย์ คู่แข่งในโซนหนีตกชั้นด้วยเงิน 25 ล้านปอนด์ ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ต่อมา

นอกจากนี้ก่อนวันเดดไลน์ นิวคาสเซิ่ล ยังทุ่มเงินจำนวนมหาศาลถึง 40 ล้านปอนด์ คว้าตัว บรูโน่ กิมาไรส์ กองกลางชาวบราซิลมาจาก โอลิมปิก ลียง ในลีกเอิง ฝรั่งเศส รวมถึงยืม แมตต์ ทาร์เก็ตต์ แบ็คซ้ายมาจาก แอสตัน วิลล่า และคว้ากองหลังอย่าง แดน เบิร์น มาจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้มาใหม่ทั้งหมดได้เข้ามาช่วยยกระดับการเล่นในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ได้ในทันที แต่น่าเสียดายว่า นักเตะใหม่ที่กำลังโชว์ฟอร์มดีอย่าง ทริปเปียร์ ได้รับบาดเจ็บกระดูกฝ่าเท้าแตกในเกมกับ วิลล่า แบะต้องพักรักษาตัวไปจนจบซีซั่นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในช่วงที่ผ่านมา ทริปเปียร์ มีบทบาทสำคัญในการพา แอตฯ มาดริด คว้าแชมป์ลา ลีกา และพาทีมชาติอังกฤษอังกฤษก้าวเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งขาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาเป็นคีย์แมนของ นิวคาสเซิ่ล ตลอดหลายเกม และยังทำประตูขากลูกฟรีคิกในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน และ วิลล่า อีกด้วย

ขณะที่คนอื่นๆอย่าง  วู้ด นั้น อาจยังทำผลงานได้ไม่ชัดเจนเท่า ทริปเปียร์ เนื่องจาก อดีตดาวยิง เบิร์นลีย์ ยังไม่สามารถทำประตูได้เลยนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล แต่เขาก็ลงสนามครบ 90 นาทีทุกเกม และช่วยให้ “สาลิกาดง” มีทางเลือกในแนวรุกมากขึ้นหลังจาก คัลลัม วิลสัน หัวหอกตัวเก่งชาวอังกฤษได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อน่องฉีกขาดในเดือนธันวาคมทีผ่านมา และต้องพักยาว

ทาร์เก็ตต์ ลงเล่นไปเพียง 2 เกม แต่ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมที่ นิวคาสเซิ่ล บุกไปยันเสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ของกุนซือ เดวิด มอยส์ ได้ถึงบ้าน ส่วน กิมาไรส์ ได้ลงเล่นในในฐานะตัวสำรองไปแล้ว 3 เกม แต่มิดฟิลด์แซมบ้ายังอยู่ระว่างปรับตัว ซึ่งฝีเท้าของเขานั้น ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยอดเยี่ยม

เอ็ดดี้ ฮาว ผู้มีบทบาทสำคัญในการพลิกฟอร์มของทีม

ฮาว ได้รับเครดิตมากมายสำหรับการพา นิวคาสเซิ่ล กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจ และมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกเขาพาทีมแพ้ไป 4 จาก 7 เกม แต่จุดเปลี่ยนสำคัญมันเกิดขึ้นหลังจากเขาพทีมเปิดบ้านเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ซึ่ง “สาลิกาดง” โชว์ฟอร์มได้ดีกว่า พลพรรค “ปีศาจแดง” อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม หลังจากเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบน่าจะชนะ แต่อีก 2 เกมต่อมา นิวคาสเซิ่ล ก็ต้องเจอวิกฤตอีกครั้งหลังพ่าย เคมบริดจ์ คาบ้าน 0-1 ในศึกฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ จากนั้น ก็ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับทีมหนีตกชั้นด้วยกันอย่าง วัตฟอร์ด 1-1 แต่หลังจากนั้น “สาลิกาดง” ก็เดินหน้าเก็บคะแนน อย่างต่อเนื่อง

ในเวลานี้ นิวคาสเซิ่ล ภายใต้การนำของ ฮาว กำลังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง และมีความหวังว่า พวกเขาอาจจะอยู่รอดได้ค่อนข้างสูงในฤดูกาลนี้

โจ วิลล็อค กองกลางชาวอังกฤษของ นิวคาสเซิ่ล กล่าวถึง ฮาว ว่า “เขาเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมมากๆ และเป็นคนที่ยอดเยี่ยมด้วย เขาเป็นผู้จัดการทีมที่เราทุกคนไว้วางใจ และเราทุกคนยอมทำในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ ผมคิดว่า เราทำผลงานได้ดีขึ้นเพระแผนการเล่นของเขา”

“เขา และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทำให้พวกเราโดดเด่นขึ้นมา ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า เรามาไกลแค่ไหนแล้ว และผู้จัดการทีมก็ทุ่มเทให้กับเรามากเพียงใด” อดีตดาวรุ่ง อาร์เซน่อล กล่าวปิดท้าย