เมื่อ อังเคล คอร์เรอา ตัวรุกชาวอาร์เจนติน่า ย้ายจาก ซาน ลอเรนโซ่ ในลีกบ้านเกิดมาเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร ในปี 2014 นั้น เขาก็ได้รับการคาดหมายว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับแนวรุก ของพลพรรค “ตราหมี” ในอนาคต
อยางไรก็ตาม ก่อนจะได้เปิดตัวกับ แอตฯ มาดริด คอร์เรอา ได้รับการวินิจฉัยจากทีมแพทย์ว่า เป็นเนื้องอกในหัวใจ ซึ่งทำให้อาชีพนักฟุตบอลของเขาตกอยู่ในความเสี่ยง และเห็นว่า ต้องรอ 16 เดือนสำหรับการประเดิมสนามให้ “ตราหมี” เนื่องจากต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที
อังเคล คอร์เรอา ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปในทีม แอตฯ มาดริด
หลังเข้ารับการรักษาโรคเสร็จสิ้น อดีตกองกลาง ซาน รอเลนโซ่ ก็ค่อยๆก้าวเข้ามาในทีมชุดแรกของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของ แอตฯ มาดริด และตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมานั้น เขาลงสนามให้กับ “ตราหมี” ไปรวมทุกรายการเกิน 300 เกมแล้ว
ในทีม แอตฯ มาดริด ชุดปัจจุบันมนแนวรุกระดับท็อปมากมายอาทิ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมเก๋าชาวอุรุกวัย, อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 และ ชูเอา เฟลิกซ์ ยอดดาวรุ่งชาวโปรตุเกส แต่ คอร์เรอา ก็ยังเป็นคีย์แมนของ ซิเมโอเน่ มาตลอด
คอร์เรอา เป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุไม่ว่าจะเป็นตัวริมเส้น, เพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10 หรือกองหน้าตัวเป้า โดยผลงานในซีซั่นนี้เขาซัดไปแล้ว 12 ประตู จาก 35 เกมรวมทุกรายการให้กับ แอตฯ มาดริด
อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วฟอร์มล่าสุดของ แอตฯ มาดริด นั้นน่าหนักใจอย่างยิ่ง ความพ่ายแพ้ 9 ครั้งใน 17 เกมที่ผ่านมาทำให้พวกเขาตกมาอยู่อันดับที่ 5 ในตารางคะแนนลา ลีกา และตอนนี้ ซิเมโอเน่ กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษของเขากับสโมสร
แต่ฟอร์มการเล่นส่วนตัวของ คอร์เรอา เป็นข้อยกเว้น โดยจอมทัพวัย 26 ปี ยังทำผลงานได้โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมทีม แอตฯ มาดริด คนอื่นๆ ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของลา ลีกา ไปแล้ว และยังคนซัดประตูพาทีมเอานะ โอซาซูน่า 3-0 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เทอร์รี่ กิ๊บสัน อดีตกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นกูรูลูกหนังแดนกระทิงดุ แสดงความคิดเห็นว่า “คอร์เรอา กำลังเติบโตอย่างมั่นคง เขาสามารถเล่นในตำแหน่งใดก็ได้ในแนวรุก เขามีความแน่นอนมาก และเขามีเทคนิคน่าตื่นเต้นเช่นกัน”
“เขาเป็นกองหน้าในอุดมคติของ ซิเมโอเน่ ในแง่ของทัศนคติ สปิริต ความทุ่มเท และความสามารถเฉพาะตัว ผมจำได้ตอนที่เขาย้ายมาเล่นกับ แอตเลติโก ตอนเป็นวัยรุ่น ผมคิดว่า เขาสามารถก้าวมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้ แต่มันต้องใช้เวลาพอสมควร”
“เขาอยู่ในฤดูกาลที่ 7 กับทีมแล้ว และมีอยู่ 2-3 ครั้งที่เขาเกือบจะได้รับอนุญาตให้ย้ายออกไปจากสโมสร แต่เขายังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมมาก และเขากำลังเข้าสู่จุดสูงสุดของการเล่นฟุตบอล ผมเชื่อว่าเขายังคงสามารถเป็นกองหน้าหมายเลข 1 ของ แอตเลติโก ได้” อดีตหัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว
ทัศนคติเชิงบวก และการมุ่งมั่นทำงานหนัก
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันภายในทีม แอตฯ มาดริด ในตำแหน่งแนวรุกนั้น ค่อนข้างหนักหนาพอสมควร คอร์เรอา ต้องแย่งโควตาตัวจริงกับ ซัวเรซ, กรีซมันน์ และ เฟลิกซ์ ซึ่งทำให้เขาได้ลงเป็นตัวจริงเพียง 20 จาก 35 เกมรวมทุกรายการในซีซั่นนี้
แต่ กิ๊บสัน ยืนยันว่า นั่นไม่ใช่ภาพสะท้อนของประสิทธิภาพการทำงานของ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ อย่างแน่นอน โดยกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอล ถ้ามีนักเตะที่ถูกซื้อมาร่วมทมีด้วยเงินจำนวนมาก พวกเขามักจะได้โอกาสก่อนผู้เล่นอย่าง คอร์เรอา”
“ซัวเรซ เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับเงินเดือนสูง รวมถึง กรีซมันน์ และ เฟลิกซ์ ด้วย และแม้แต่ มาเธอุส กุนญ่า ก็ถูกซื้อมาแพง และมันง่ายกว่าที่จะมองข้ามทผู้เล่นที่ไม่มีอีโก้สูงอย่าง คอร์เรอา แต่ผมคิดว่า เขาไม่ได้มีฝีเท้าเป็นรองนักเตะที่กล่าวมาเลย”
ขณะเดียวกัน ทัศนคติเชิงบวกที่ไม่สิ้นสุดของ คอร์เรอา ยังคงโดดเด่นอยู่เสมอ เขาไม่เคยมีปัญหาเลยแม้จะต้องตกไปเป็นตัวสำรอง ซึ่งมันเป็นนิสัยติดตัวเขามาตั้งแต่ตอนที่เล่นในบ้านเกิดกับอดีตทีมเก่าอย่าง ซาน ลอเรนโซ่ แล้ว
เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของ คอร์เรอา เคยตกอยู่นความเสี่ยง และหากย้อนกลับไปตอนที่โดนตรวจพบว่า เป็นเนื้องอกที่หัวใจนั้น เขาต้องใช้เวลาพักฟื้น 6 เดือนก่อนที่เขาจะสามารถฝึกซ้อมแบบเบา ๆ ได้ และจากนั้น ก็ต้องรออีก 9 เดือนก่อนที่จะได้ประเดิมสนามกับ แอตฯ มาดริด
หลังจากเหตุการณ์ที่น่ากังวลนั้น คอร์เรอา ดูเหมือนจะมีความคิดที่ว่า ทุกสิ่งที่เขาทำได้คือ โบนัส นอกจากนี้ การเสียชีวิตของคุณพ่อเมื่ออายุได้ 10 ขวบ ตามมาด้วยการสูญเสียพี่ชายไป 1 คนในอีก 2 ปีต่อมา ก็ทำให้มุมมองในการดำเนินชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าโดยภาพรวมในปีนี้ของ แอตฯ มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ซิเมโอเน่ จะดูสั่นคลอน แต่สิ่งที่คู่แข่งมองข้ามพลพรรค “ตราหมี” ไม่ได้เลยก็คือ ฟอร์มการเล่นของ คอร์เรอา ที่พร้อมจะสร้างปรากฏการณ์ได้ทุกเมื่อ