เซอร์จี้ คานอส กับบทบาทใหม่ที่ เบรนท์ฟอร์ด

เซอร์จี้ คานอส กองกลางชาวสเปนของ เบรนท์ฟอร์ด สโมสรน้องใหม่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยถึงบทบาทใหม่ที่เขาต้องขยับมาเล่นเป็นวิงแบ็คให้กับทีมในฤดูกาลนี้ และความท้าทายต่างๆภายในทัพ “เดอะ บีส์”

ดาวเตะวัย 25 ปี ใช้เวลาเพียง 22 นาทีก็ประเดิมประตูแรกของตัวเองในพรีเมียร์ลีกปีนี้หลังยิงไป 1 ประตูช่วยให้ เบรนท์ฟอร์ด สร้างเซอร์ไพรส์เปิดรัง คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เอาชนะ อาร์เซน่อล ไป 2-0 เมื่อต้นซีซั่นที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันในปีนี้ เบรนท์ฟอร์ด เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการมีส่วนร่วมในลีกสูงสุดเป็นหนแรกในรอบเกือบ 40 ปีของสโมสร ซึ่งตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา “เดอะ บีส์” ภายใต้การนำของ โธมัส แฟรงค์ โค้ชชาวเดนมาร์ก ก็กำลังต้อสู้อย่างหนักเพื่อเอาตัวรอดจาการตกชั้น

ฝันที่เป็นจริงของ เซอร์จี้ คานอส

คานอส เริ่มกล่าวว่า “มันเหมือนฝันที่เป็นจริงที่ผมยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ผมดู อาร์เซน่อล เล่นมามาหลายปีแล้วตอนที่ตัวเองยังเด็ก และผมก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมที่พบกับพวกเขา และผมก็ทำประตูได้”

“ผมรู้สึกขอบคุณทุกคนในทมีมากๆ และสามารถพูดได้เต็มปากว่า ผมทำประตูแรกให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีกปีนี้ มันมีความหมายมากสำหรับผม และครอบครัว”

สิ่งที่หลายๆคนลืมไปแล้วก็คือ คานอส เคยเป็นอดีตนักเตะของ ลิเวอร์พูล ซึ่งเจ้าตัวก็ย้ายมาเล่นกับ เบรนท์ฟอร์ด ด้วยสัญญายืมตัวในปี 2015 จากนั้นก็ย้ายไป นอริช ซิตี้ ก่อนจะหวนกลับมายังพลพรรค “เดอะ บีส์” อีกครั้งจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ มิดฟิลด์ชาวสเปนใกล้จะลงเล่นให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ครบ 250 เกมแล้ว ซึ่งมีนักเตะไม่ถึง 50 คนที่ทำได้กับสโมสรแห่งนี้ โดยเจ้าตัวระบุว่า “ทุกคนรู้ดีว่าผมรู้สึกอย่างไรกับสโมสรแห่งนี้”

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คานอส จะได้ลงเล่นในตำแหน่งตัวรุกฝั่งขวาเป็นหลักให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่ถนัดของเขาโดยเห็นได้จากสถิติที่ซัดไป 9 ประตูและ 10 แอสซิสต์จากการลงเล่น 55 นัดในทุกรายการเมื่อปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ เบรนท์ฟอร์ด มีการปรับระบบจาก 4-3-3 มาเป็น 3-5-2 ซึ่งทำให้ คานอส ต้องขยับมาเล่นเป็นวิงแบ็คขวา และเขาก็ยืนยันว่า พร้อมจะช่วยทีมอย่างเต็มที่ไม่ว่ากุนซือจะมอบหมายให้ทำหน่าที่ใดก็ตาม

อดีตดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล กล่าวต่อว่า “ในช่วงปรีซีซัน ผมได้พบกับโค้ช โธมัส แฟรงก์ค์ และ ไบรอัน       รีเมอร์ ผู้ช่วยของเขา พวกเขาอธิบายสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทำ และผมก็มีความสุขมาก ผมรู้สึกว่าผมสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง และในตอนนั้นพวกเขาคิดว่า ผมจะเป็นวิงแบ็คที่ดีได้ ดังนั้น ผมจึงตอบว่า ใช่ ผมทำได้”

“มันเป็นเรื่องยากเช่นกันในการเล่นตำแหน่งวิงแบ็ค เพราะความแข็งแกร่งหลักของผมคือ เกมรุก แต่มีบางสถานการณ์ในเกมที่ผมต้องตั้งรับต่ำ กระชับพื้นที่ และสื่อสารกับกองหลัง ซึ่งมันเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม ผมพยายามแล้วจริงๆในการปรับปรุงสิ่งนั้น เพราะผมรู้ว่ามันจะมีความสำคัญกับทีม”

“ช่วงต้นฤดูกาล ผมคิดว่าผมทำได้ดีทีเดียว และเกมรับของเราก็แข็งแกร่งมาก แต่แล้วผมก็มองย้อนกลับไป และมีหลายครั้งที่คุณเห็นว่าผมเป็นฝ่ายตั้งรับในตำแหน่งกองหลัง เมื่อเราตั้งรับต่ำ ผมคิดว่านั่นคือตอนที่ผมต้องทนทุกข์ทรมานมากที่สุดเพราะผมไม่สามารถแสดงจุดแข็งของตัวเองได้เลย”

“ผมต้องทำงานหนักมากในการฝึกซ้อม ผมพยายามโฟกัสไปที่เกมรับแทนที่จะเล่นเกมรุก และผมไม่เสียใจกับมันเลย ตอนนี้ผมตั้งรับได้ดีกว่าตอนต้นฤดูกาลมาก ผมได้ทำเพราะทีมต้องการมัน”

“ตลอดอาชีพการงานของผม ผมเป็นผู้เล่นที่มีความมั่นใจจากการทำประตู, แอสซิสต์, สร้างโอกาส, จ่ายบอล แต่การก้าวขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก และไม่ได้มีสถานการณ์เหล่านั้นทำให้รู้สึกมั่นใจมากนัก มันเป็นเรื่องยากเช่นกัน”

“ผมต้องทุ่มเทอย่างมากในการมีความมั่นใจในการป้องกัน การเก็บบอลไว้กับตัเอง และอย่าให้นักเตะคนอื่นๆเอาชนะผมได้ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมั่นใจขึ้น แต่ผมคิดว่า ผมทำได้ดีแล้ว”

เซอร์จี้ คานอส

กลับมาเล่นในตำแหน่งที่ถนัดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การที่ แฟรงค์ ปรับให้ เบรนท์ฟอร์ด กลับมาเล่นในระบบ 4-3-3 อีกครั้งในช่วงหลังนั้น ก็ทำให้ คานอส ได้กลับคืนสู่ตำแหน่งตัวรุกที่ตนเองถนัดอีกครั้ง โดยมี คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์ กองหลังชาวนอร์เวย์ถูกขยับมาเล่นเป็นแบ็คขวา และนั้บตั้งแต่กลับมาเล่นในระบบเดิม “เดอะ บีส์” ก็เก็บแต้มได้มากขึ้น

คานอส เล่าต่อว่า “เกมแรกของผมในการกลับมาเล่นตำแหน่งเดิมคือ เกมเยือน นอริช เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และผมรู้สึกดีมาก เพราะผมไม่ได้เล่นเป็นปีกมากกว่าหนึ่งปีแล้ว ซึ่งในฐานะวิงแบ็ค ผมกำลังโฟกัสไปที่ตำแหน่งที่ต่ำกว่า และค่อยหากาสโจมตีทุกครั้งที่ทำได้ แต่บางครั้งในเกมกับ นอริช ผมก็ต้องปรับสไตล์การเล่นของตัวเองเล็กน้อย”

“ผมรู้ว่าเราไม่มีเวลาปรับตัวมากนักในพรีเมียร์ลีก แต่ผมต้องการลงเล่น 2-3 เกมเพื่อปรับตัว วิธีการที่เราเพรสซิ่งนั้น แตกต่างกันในทุกตำแหน่ง จึงมีบางครั้งที่โค้ชบอกให้ผมผลักดันให้สูงขึ้น แม้มันจะยังไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของผม แต่ผมคิดว่า รู้สึกเหมือนกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง”

ปัจจุบัน เบรนท์ฟอร์ด รั้งอันดับ 15 ในตารางคะแนนโดยเก็บได้ 30 แต้มจาก 30 เกม และมีแต้มเหนือโซนตกชั้น 8 คะแนน ซึ่ง อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล ก็มั่นใจว่าทีมของเขาจะอยู่รอดปลอดภัยในฤดูกาลนี้

“ผมคิดว่าเราทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่แน่นอนว่าเราไม่ปลอดภัย มันต้องใช้เวลาจนจบฤดูกาล แต่เราจะทำงานหนักเพื่อให้ได้ชัยชนะมาก่อน เราค่อนข้างมั่นใจ และเราจะจัดการกับมันได้ค่อนข้างดี เราเคยได้รับคะแนนเหล่านั้นเมื่อต้นฤดูกาลว่า ช่วงเวลาที่เลวร้ายกำลังจะมาถึง”

 “ผมคิดว่า ช่วงเวลาที่เลวร้ายมาถึงกับทุกๆทีม แม้ว่าพวกเขาจะเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรืออยู่ในการต่อสู้ตกชั้น มันเกิดขึ้นได้กับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ทำไมมันจะเกิดขึ้นไม่ได้กับ เบรนท์ฟอร์ด ล่ะ”

“แต่คุณสามารถเห็นความมั่นใจจากพวกเราได้ และใน 3 เกมที่ผ่านมาเราเล่นได้ดีจริงๆ และเราสมควรได้รับแต้มที่เรามีตอนนี้แล้ว และด้วยวิธีที่เราเล่น และวิธีที่เราแสดงให้ผู้คนเห็นว่าเราเล่นอย่างไร ผมไม่คิดว่า เราจะถูกพูดถึงเรื่องการตกชั้น”

, , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *